PHIKANES2515

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ณิคกี้เปลี่ยนหัวฉีดLPGใหม่,ก่อนเดินทางไกลอย่าลืมเช็ครถ,ราคาแก๊ส NGV & LPG จะขึ้นจริงหรือ,แก๊สรั่วทำอย่างไร,ติดถังดับเพลิงไว้ในรถแก๊สอุ่นใจดีกว่า,เปลี่ยนไส้กรองแก๊สตามรอบดีกับเครื่องยนต์

ภาพเหตุการณ์ล่าสุด  5 ก.พ.55 ที่ริม ถ.สุขุมวิท ก.ม. 179 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โชคดีที่เจ้าของรถมีสติ หนีออกมาได้ทัน

วันนี้ณิคกี้ (ผู้เขียน) ได้ไปประสบพบเห็นเหตุการณ์รถไฟไหม้ข้างทาง ระหว่างกำลังเดินทางไปส่งพัสดุที่ไปรษณีย์สัตหีบ แล้วก็ได้ขับรถผ่านรถของผู้เสียหาย คือ จ่าเอกชาญณรงค์ ซึ่งได้เปิดเผยว่า รถคันนี้เป็นรถมือ 2 ซื้อมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จากนั้นนำไปติดตั้งแก๊สแอลพีจี ต่อมาเห็นข่าวเพลิงไหม้รถติดแก๊สแอลพีจีบ่อยๆ เลยไปให้ช่างในอู่ถอดออกแล้วหันมาใช้น้ำมันแทน กระทั่งก่อนเกิดเหตุทางอู่ได้โทรศัพท์ให้ตนไปรับรถเนื่องจากซ่อมเสร็จเรียบร้อย แต่ขณะขับออกมาจากอู่และกำลังจะเข้าเติมน้ำมัน ระหว่างนั้นเครื่องยนต์มีอาการกระตุก และเกิดควันลุกท่วมออกมาจากห้องเครื่อง ตนเลยจอดรถลงข้างทาง และรีบวิ่งหนีออกมาจากรถ ทันใดนั้นเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนวอดทั้งคัน เพียงในเวลาแค่ไม่ถึง 5 นาที เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนระบบแก๊สออก เพื่อมาใช้ระบบน้ำมันเหมือนเดิม โดยช่างอาจใส่สายน้ำมันไม่สนิท ทำให้มีการรั่วไหลของน้ำมัน เมื่อเครื่องยนต์ทำงานมาได้ระยะหนึ่งจึงความร้อน ทำให้น้ำมันเบนซินที่รั่วไหล ไปปะทะกับความร้อนของเครื่องยนต์ จนเกิดประกายไฟจนลุกลามไปยังถังน้ำมัน เป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนเผาวอดทั้งคัน อย่างไรก็ดี คงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง  ดังนั้นการที่ดิฉันเชิญชวนให้ผู้ที่ติดตั้งระบบแก๊สใช้ในรถยนต์ส่วนบุคคลทุกคันต้องระมัดระวัง และควรหมั่นตรวจเช็คระบบแก๊สบ่อยๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมทางต้องเสี่ยงกับเหตุการณ์ที่ได้นำมาแบ่งปันนั่นเองค่ะ
 



เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.54 ดิฉันได้นำรถไปเข้าศูนย์บริการเกี่ยวกับระบบแก๊ส LPG ที่ จ.ระยอง ซึ่งใกล้บ้านที่สุดแล้วสำหรับสถานที่บริการประเภทนี้ที่มีระบบเครื่องไม้เครื่องมือแบบมืออาชีพ เป็นระบบ Computor ซึ่งการปรับจูนระบบควรต้องพิถีพิถันละเอียดถูกต้องชัดเจน  เพื่อความปลอดภัย และสบายใจให้กับลูกค้า  ทั้งนี้ก่อนที่ดิฉันเข้าไปเช็คสภาพระบบแก๊สแอลพีจี (LPG) ของรถนั้น  "บลูเบอรี่" (ชื่อรถดิฉันเองค่ะ) เขามีอาการสั่นแรงมาก เวลาเราสตาร์ทเครื่องยนต์ เร่งไม่ขึ้นเอาซะเลย  ทั้งๆ ที่ได้เหยียบคันเร่งจนมิดสุดๆ แล้วก็ตาม ย้ำแล้วก็ย้ำอีกอยู่นั่นค่ะ จนพยายามเหยียบถี่ๆ ขึ้นพอรู้สึกเครื่องยนต์ "บรึ้นๆๆๆ ดังแรงมาก" เหมือนประมาณว่าณิคกี้กำลังจะแข็งรถก็ไม่ปานค่ะ  แล้วเจ้าบลูเบอรี่ก็เริ่มจะมีแรงขยับตัวได้ซะที กี้ก็ค่อยถอยคลานออกจากโรงรถไปโน้นไปนี่ พักหลังเป็นบ่อยๆ ครั้งขึ้นก็เลยไปเข้าอู่ใกล้บ้าน ช่างก็ถอดล้าง"หม้อต้ม"  เปลี่ยน "ไส้กรองเล็ก" ที่อยู่ใกล้ๆ หม้อต้มให้ แต่พอกลับมาอาการก็ยังไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไร จนคุณสามีที่บ้านก็เชียร์ว่าไปหาที่ซ่อมใหม่ดีกว่านะ  เพราะเดี๋ยวเราจะเดินทางไกลแล้ว  จะได้สบายใจ กี้ก็เลยวิ่งไปที่ระยองทันที ห่างจากบ้านที่ อ.สัตหีบ เป็น 45 ก.ม.ก็ไป  เพื่อจะได้ซื้อความสบายใจหายห่วง  เพราะเราตระหนักดีว่า  อย่าเล่นกับแก๊ส อย่าประมาทกับฟืนไฟเด็ดขาด เหตุนี้กี้จึงไม่รอช้ารีบหาแหล่งที่จะแก้ไขปัญหาระบบแก๊สหัวฉีดของรถยนต์ 16 วาล์ว ของเราทันทีค่ะ 

สรุปว่า ช่างเช็คแล้วจึงแนะนำให้กี้เปลี่ยนหัวฉีดยกแผงจะดีกว่าเพื่อให้ระบบการจ่ายแก๊สมีประสิทธิภาพดีขึ้นกับเครื่องยนต์ พร้อมกับ"ไส้กรองแก๊สตัวใหญ่" ที่ติดกับ "ชุดหัวฉีด 4 หัว" ซึ่งไส้กรองนี้ปกติควรจะทำการเปลี่ยนทุกๆ 20,000 ก.ม. พร้อมกับ "หัวเทียนในเครื่องยนต์ 4 หัว" จะดี สำหรับ"ชุดหัวฉีด" ควรจะเปลี่ยนทุกๆ 50,000 ก.ม. จะดีกับรถยนต์ของท่านค่ะ  อย่าเอาอย่างกี้นะคะ  เพราะกี้ซัดไปตั้ง 125,000 ก.ม.เห็นจะได้ค่ะ  (บางทีที่เขาว่าผู้หญิงใช้รถก็แบบนี้แหล่ะ คงจะจริง!)  ดังนั้นกี้เลยจ่ายเงินซ่อมครั้งนี้เป็นเงิน 6,400 บาท และที่อู่ใกล้บ้านที่ไปใช้บริการล้างหม้อต้มอีก 1,400 บาท  รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,800 บาท กี้ลองมาดีตัวเลขแบบนักบัญชีที่เคยเรียนมาจาก ร.ร.ตั้งตรงจิตรพณิชยการ วัดโพธิ์ ท่าเตียน ก็เลยมีคิดเล่นๆ ว่า หากกี้เอา 7,800 บาท ตั้ง หารด้วย 3 ปี ที่กี้เปลี่ยนมาใช้ระบบแก๊ส LPG กับ "บลูเบอรี่" ก็จะได้ตัวเลขค่าซ่อมบำรุงต่อปี เท่ากับ 2,600 บาท ซึ่งนับว่าไม่แพงเท่าไหร่ค่ะ เพราะเราทุ่นค่าน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ 95 ไปเยอะเหมือนกันค่ะ  เพราะปกติกี้เอารถเข้าศูนย์บริการก็จะประมาณ 2-3 เดือนครั้งๆ ละประมาณ 3,000 บาท หากเราคูณด้วย 4 ก็จะเท่ากับเงิน 12,000 บาท/ปี สำหรับการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ หรือเฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท และถ้าหากกี้นำค่าซ่อมบำรุงระบบแก๊สมาเฉลี่ยอีก  กี้ก็จะนำ 2,600 บาทตั้ง หารด้วย 12 ก็จะเป็นเงินประมาณ 217 บาท แล้ว กี้จะ 1,000 + 217 = 1,217 บาท / เดือน ค่ะ  เห็นไหมคะว่าหากใครมีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะพาตัวท่านไปทำกิจธุระ หรือท่องเที่ยวพักผ่อนก็ให้คิดให้ดีๆ หากท่านมีตังค์เยอะๆ ก็ดีไป หากใครที่เพิ่งเริ่มสร้างครอบครัวก็ให้ประมาณการณ์ค่าใช้จ่ายรายวันรายเดือนให้รอบคอบ จัดสรรปันส่วนให้ลงตัว  นี่เรายังไม่รวมค่าแก๊สที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ที่ทางรัฐบาลมีแผนว่าจะปรับขึ้นอีกด้วยนะคะ  ถ้าค่าเชื้อเพลิงปรับตัวขึ้นแน่นอนสิ่งที่ตามมาก็ไม่พ้นค่าโดยสารรถประจำทาง ขสมก. รถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ รถขนส่งสินค้า ร้านอาหารตามสั่ง โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้แก๊ส รวมทั้งของกินของใช้ทั้งหลายก็ต้องพากันปรับตัวสูงขึ้นตามแน่นอนค่ะ  เอาเป็นว่าทุกท่านได้ทราบกันแล้วว่า  สิ่งที่กี่ได้เล่าไปทั้งหมดเป็นเจตนาดี ความปรารถนาดีที่ต้องการให้ทุกท่านที่มีรถยนต์ 2 ระบบ คือ ใช้ทั้งน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงปกติกับใช้แก๊สทั้งแบบหัวฉีด และ/หรือระบบดูดกลับได้ตระหนักถึงการบำรุงรักษาตามรอบ (Maintenance Period) เพื่อให้ตัวท่าน คนที่ท่านรักและห่วงใย และคนที่อยู่ในความรับผิดชอบระหว่างที่ท่านขับรถพาเขาไปส่งรายทาง หรือถึงจุดหมายก็จะได้ปลอดภัยกันทุกคนนั่นเอง 


"บลูเบอรี่พากี้และครอบครัวไปทอดผ้าป่าที่ วัดเขาคีรีวงกต อ.นครไท จ.พิษณุโลก"


น้ำยาล้างรถ "POWER CAR WASH" ขวดละ 200 บาท (ปกติ 250 บาท)
ขนาด 1 ลิตร (50 ซี.ซี. : น้ำ 5 ลิตร)

กี้ขอ Action หน่อยค่ะ

หัวเชื้อประหยัดน้ำมัน แพ็คละ 10 ขวด
ราคาแพ็คละ 600 บาท (ปกติ 900 บาท)
หมายเหตุ : เรายินดีจัดส่งทั่วราชอาณาจักร เพียงสั่งครบ 1,200 บาท (ค่าจัดส่งตามน้ำหนักโดยทางไปรษณีย์)



วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ข้าวแตกกอดีโทร087-7755918,นุ้ยลุยนาข้าว,ข้าวไม่กินปุ๋ยไม่แตกกอ,รากหากินเก่งทำไง,ชาวนาปลดหนี้,ชาวนาโดนน้ำท่วมข้าว,ใช้ปุ๋ยดีเร่งข้าวเกี่ยวทันน้ำท่วม



การทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ทันกับน้ำท่วมที่มักจะมาเร็วผิดปกตินั้น เกษตรกรคงต้องศึกษาวิธีการให้ดีให้มากจากนักวิชาการเกษตร เช่น เกษตรตำบล เกษตรอำเภอ เกษตรจังหวัด เจ้าหน้าที่ตามโครงการพระราชดำริที่มีมากกว่า 3,000 โครงการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเกษตรกรเองว่าการทำการเกษตรในครั้งนี้นั้นจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ทันน้ำที่จะไหลบ่ามาท่วมซ้ำอีก เหมือนปีก่อนๆ นั่นเองค่ะ

สำหรับณิคกี้แล้วมีเกษตรเข้ามาเยี่ยมชมเว็ปไซด์เรามากมาย เพราะทีมงานเราได้เขียนเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับอุปกรณ์การเกษตร ปุ๋ย ยา สารอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยนาโน จุลินทรีย์ ซึ่งเราเน้นสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายกับเกษตรกรเป็นสำคัญ  ดังนั้นเกษตรที่กำลังมองหาปุ๋ยบำรุงข้าวในนาท่านให้ "แตกกอมากหลายสิบกอต่อต้น" เพราะรากข้าวยาว สะอาด กินปุ๋ยเก่ง รากเดินดี จึงส่งผลให้ต้นข้าวมีรวงเยอะ เมล็ดมากต่อรวง ไม่รีบ ไม่ร่วง ไม่ลาย เม็ดเต่ง น้ำหนักรวงดี ขายได้ราคา ข้อดีอย่างนี้คงไม่มีเกษตรกรท่านใดปฎิเสธว่า "ไม่ต้องการ" เพราะกี้เชื่อว่า เราลงทุน ลงแรงไป ก็ต้องหวังผลผลิตให้คุ้มเหนื่อยแน่นอนจริงไหมคะ?  ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ "เราต้องการสะสมอาหารไว้กินตอนลำบาก ตอนที่เราทำการเพาะปลูกไม่ได้เนื่องจากประสบเหตุเพศภัยทางธรรมชาติ"ที่ผลัดเปลี่ยนเวียนคิวกันมาเยี่ยมเยือนพวกเราบ่อยมากขึ้น  จนตั้งตัวกันไม่ทัน รับมือไหวบ้าง ไม่ไหวบ้าง สิ้นเนื้อประดาตัวกันมากมาย

หากท่านต้องการข้าวในนามีผลผลิตสูงๆ นั้น ควรใช้ตัวช่วยแบบผสมผสาน เช่น การใส่ปุ่ยเคมีผสมปุ๋ยอินทรีย์(1:3) ปุ๋ยน้ำทางใบสูตรนาโน และฮอร์โมนประเภทปุ๋ยสกัดชีวภาพก็ได้ค่ะ   เพื่อให้ข้าวมีสารอาหารเพียงพอไปสร้างความเจริญเติบโตทันกับการเก็บเกี่ยวตามแผนที่เกษตรกรวางไว้  จะได้ปลอดภัยน้ำไม่ทันท่วมไงคะ

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม/สั่งซื้อ :
เอ็น-ฟังก์ชั่น ชุดละ 850 บาท (ปกติ 1,200 บาท)
ไรซ์โกล์ด ขนาด 1/2 ก.ก. กระป๋องละ 850 บาท (ปกติ 1,000 บาท)

ไอ-ไรซ์ ขนาด 1 ลิตร ขวดละ 450 บาท (ปกติ 600 บาท)

ปุ๋ยอินทรีย์ เอ.ไอบิสเน็ต (ไทย) กระสอบละ 300 บาท (ปกติ 375 บาท)
40 กระสอบ (1 ตัน เพียง 12,000 บาท)

บิววาเรีย "ทริปโตฝาจ"
กำจัดเพลี้ยหนอนแมลงได้ผลดี
ราคาซองละ 150 บาท /หนัก 1/2 ก.ก.
(ไม่รวมค่าส่ง)

ดับเบิ้ล-อี สารจับใบ พร้อมออกฤทธิ์คุมไข่หนอนแมลงได้ผลดี
ปลอดภัยเพราะเป็นสารอินทรีย์สกัด น้ำหนัก 1 ลิตร
ราคาขวดละ 450 บาท
(ไม่รวมค่าส่ง)

*ใหม่ล่าสุดปุ๋ยนาโนสูตรผงบรรจุแคปซูล "อาหารเสริมพืช วายไอซี.แคปซูลนาโน" YIC.Capsule Nano*



ณิคกี้ชวนบริจาคโลหิต,ทำดีเพื่อพ่อด้วยเลือดคุณ,สร้างทานบารมีที่ง่ายและคุณทำได้แน่ด้วยการบริจาคโลหิตช่วยเพื่อนมนุษย์,ร่างกายแข็งแรงแล้วแบ่งปัน,YOU ARE WHAT YOU EAT,ร่วมบริจาคอวัยวะและโลหิตที่สภากาชาดไทยและโรงพยาบาลทั่วประเทศ,ธนาคารเลือด,Blood Bank,Torboryz,Rice Bran & Germ Oil Somrudee Oryza,A.I-C+



 

เมื่อท่านทานอาหารแบบไหนเข้าไปในร่างกาย สภาพร่างกายท่านก็จะมีผลเหมือนกับสิ่งที่ท่านทาน "You are what you eat" เช่น ท่านทานอาหารรสจัดเผ็ดร้อน ร่างกายท่านก็จะขับเหงื่อเพื่อปรับสมดุลความร้อนในร่างกาย หากท่านทานอาหารที่จืดเย็นเข้าไป ร่างกายท่านก็จะรู้สึกสบายๆ ไม่ตึงเครียดง่าย หลักธรรมชาติแบบนี้มีมานานแล้ว  หากเรานำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน  ก็จะส่งผลให้ร่างกายของท่าน และคนที่ท่านรักย่อมสมบูรณ์แข็งแรง   จนสามารถแบ่งปันเลือดในร่างกายท่านไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้  อย่างที่ณิคกี้ก็ได้ไปบริจาคโลหิต ณ โรงพยาบาลสิริกิติ์ เป็นประจำไงคะ ตอนนี้ก็ 21 ครั้งแล้วค่ะ  ได้ทำบุญสร้างเสริมบารมีให้กับตัวเราเองด้วยไปในตัวด้วย  หากท่านใดมีคำถามที่ต้องการทราบเกี่ยวกับการบริจาคโลหิตเพิ่มเติมอย่าเกรงใจนะคะ  โทรสอบถามณิคกี้ได้เลยค่ะที่ 08-9601 5286 หรือจะส่ง mailto:preeyapat.ka@live.com ได้ตลอด 24 ช.ม. ค่ะ

มารู้จักเลือดที่ถูกบริจาคออกจากร่างกายผู้มีจิตสาธารณะกันบ้างดีกว่านะคะ
ทราบกันดีในกลุ่มวิชาชีพแพทย์ว่าเลือดนั้นจะมีอายุขัยเพียง 35 วันหลังจากถูกลำเลียงออกจากร่างกายเข้าถุงบรรจุ และต้องเก็บรักษาในอุณภูมิ 1-6 องศา (เฉลี่ย 4 องศา) จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคติดเชื้อในโลหิตตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกเพื่อความปลอดภัยในการนำไปรักษาผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเชื้อซิฟิลิส, ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี  และไวรัสเอชไอวี ฯลฯ รวมระยะเวลาทั้งสิ้นประมาณ 4-6 ชั่วโมงจึงจะเสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าว
      
       เลือดแต่ละ 1 ยูนิตจะถูกนำไปแยกส่วนของโลหิตเพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยอย่างตรงอาการและมีประสิทธิภาพ อย่างเช่นเม็ดเลือดแดงเข้มข้น สำหรับผู้ป่วยที่ต้องเปลี่ยนถ่ายเลือด, ผู้ป่วยผ่าตัด, โรคหัวใจ, โลหิตจาง, ผู้ป่วยที่มีภาวะซีดมาก อย่าง ไขกระดูกฝ่อ มะเร็งเม็ดโลหิตขาว โลหิตจางธาลัสซีเมีย ซึ่งเมื่อแยกสารประกอบแล้วจะมีอายุประมาณ 1 เดือน  หรือเกร็ดเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก, เลือดออกในสมอง ซึ่งจะมีอายุเพียง 5 วันเท่านั้น ฯลฯ แต่ละสารประกอบที่ถูกสลัดออกมาจะถูกนำไปใช้รักษาจำเพาะโรค
      
       ในประเทศไทยนิยมแยกเลือดในระบบเอบีโอ ซึ่งเลือดที่มีจำนวนน้อยและหายากคือกรุ๊ปเอบี โดยมีประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ถ้าเยอะหน่อยก็คือกรุ๊ปโอ คือประมาณ 38 เปอร์เซ็นต์ รองลงมากคือกรุ๊ปบี ประมาณ 34 เปอร์เซ็นต์ และกรุ๊ปเอ ประมาณ 21 เปอร์เซ็นต์  นอกจากนี้ยังมีกรุ๊ปพิเศษในระบบอาร์เอช เรียกว่าอาร์เอชลบซึ่งพบน้อยมากในเมืองไทย แค่ 0.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
      
       สำหรับคนที่กลัวการบริจาคเลือดว่าอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ก็คงต้องยืนยันกันอีกสักครั้งว่าการบริจาคเลือดเพียง 350 - 450 ซี.ซี. นั้นไม่มีผลเสียใดๆ ต่อร่างกาย มิหนำซ้ำยังช่วยกระตุ้นการทำงานของผู้บริจาคอีกด้วย มีการศึกษากันว่านอกจากจะช่วยให้ไขกระดูกทำงานได้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยในการผลิตเม็ดเลือดใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิมอีก รู้อย่างนี้แล้ว ลองตบเท้าเข้ามาบริจาคกันสักทีจะเป็นไรไป
ทั้งนี้หากท่านผู้อ่านต้องการมีร่างการยสมบูรณ์แข็งแรงแบบกี้ ซึ่งมีความตั้งใจจะบริจาคโลหิตทุก 3 เดือนแล้วละก็ ท่านเพียงรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ไม่เครียด และออกกำลังกายบ้าง แต่ละวันควบคุมระบบขับถ่ายให้เป็นระบบ ไม่อั้น ไม่ฝืน ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ พยายามพาตัวเราให้ห่างไกลจากสภาวะแวดล้อมที่เสี่ยงกับสารมลพิษปนเปื้อน แม้จะรู้ว่ามันยากก็ต้องตระหนักและห่วงใยดูแลตัวเองให้ปลอดภัยไร้สารเคมีตกค้างให้มากที่สุด  เพราะอาหารการกินในสมัยนี้มักจะหลีกเลี่ยงสารเคมีอันตรายได้ยาก  ถึงแม้จะรับมาครั้งละเพียงเล็กๆ น้อยๆ หากร่างกายเรากำจัดหมดก็ดีไป  แต่ถ้าร่างกายเรากำจัดไม่หมดก็เหลือสะสมไปทีละเล็กละน้อยๆ จนสะสมถึงขั้นย้อนกลับมาทำอันตรายกับเราได้ ทีนี้แหล่ะค่ะ "ความเจ็บไข้ได้ป่วยก็มาสู่มาเยือนเรา" ได้ง่าย  ดังนั้น หากท่านที่รักและห่วงใยสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคร้ายควรหมั่นดูแลสุขภาพให้ดี ให้ถึง ให้ครบ หากไม่ครบในแต่ละวัน ในแต่ละมื้อ หรือบางมื้อรับหนักเกินไปต้องระบายออกบ้างควรทำอย่างไรดี  สำหรับกี้แล้ว กี้จะเลือกวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะอายุเราก็เริ่มเข้าวัยกลางคนแล้ว ระบบเผาผลาญในร่างกายย่อมเสื่อมถอยไปเป็นธรรมดา  ดังนั้นกี้จึงเลือกรับประทานอาหารเสริมบางตัวที่เราสู้ราคาได้ ไม่แพง หากเราบวก ลบ คูณ หาร แล้ว คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปละก็ กี้จะไม่ปฎิเสธ และดูปริมาณการรับประทานให้พอเหมาะกับน้ำหนักตัวเราจะได้ปลอดภัย ไม่เสียของด้วย

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม/สั่งซื้อ:

100 แคปซูล / 900 บาท (ปกติ 1,800 บาท)

60 แคปซูล / 750 บาท (ปกติ 900 บาท)





วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การดำรงชีพเพื่อชีวิตต้องไม่สิ้นหวังหากเกิดภัยธรรมชาติ,เตรียมตัวแล้วหรือหากเกิดภัยธรรมชาติ,เครื่องสนามจำเป็นแบบดำรงชีพในป่า,ชุดดำรงชีพ,เขื่อนแตกน้ำท่วมต้องทำอย่างไร,สึนามีมาหนักกว่าเดิมทำอย่างไร,อุปกรณ์เดินป่าจำเป็น,ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังได้แล้ว







ชุดสายลัดทึบหรือสายเก่ง(Weight Gear)
พร้อมหม้อข้าวสนาม/ขวดน้ำ/อื่นๆ
ที่สามารถพกพาไปได้ตามต้องการ
สายเก่งที่ท่านจะใช้ลัดกับเข็มขัดสนาม
แล้วใช้ห้อยเกี่ยวสิ่งจำเป็นติดตัวไป
ภัยร้ายๆ ที่มากับธรรมชาติ เช่น ลมพายุ แผ่นดินไหว ดินโคลนถล่ม น้ำท่วม สึนามิ ไฟป่า ภูเขาไฟระเบิด และ ภัยแล้ง ดูเหมือนค่อยๆ คืบคลานมามีผลโดยตรงกับสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ พืช สิ่งมีชีวิตเล็กพวกแบคทีเรียทั้งหลายก็ตาม พวกเราปฎิเสธไม่ได้กับสิ่งนี้ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเยี่ยมพวกเราตามอิทธิพลของกฎธรรมชาติ  แต่พวกเราช่วยกันลด ละ เว้น เลิก การกระทำที่อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาภาวะเรือนกระจก ที่มีผลให้โลกของเราร้อนขึ้นได้ เพื่อป้องกันน้ำแข็งที่ขั่วโลกละลาย  จนทำให้ปริมาณน้ำในโลกเพิ่มขึ้นเรื่อย จนอาจจะกลืนแผ่นดินที่ปัจจุบันก็เหลือน้อยมากแล้วเพียง  1 ใน 3 ของพื้นที่โลกโดยรวม  ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้พวกเราอาจจะกลายเป็นมนุษย์น้ำก็ได้ พวกท่านพร้อมกันแล้วหรือยังคะ  ว่ายน้ำเป็นไหม หากว่ายไม่เป็นท่า แต่สามารถลอยตัวอยู่ที่ผิวน้ำครั้งละนานๆ ได้ไหม มีทุ่นลอยน้ำ เรือ พาย แพ ไม้คำยันยาวๆ  และ/หรือสิ่งประดิษฐ์คิดค้นเฉพาะตัวของท่านและสมาชิกในครอบครัวของท่านก็ได้ เพียงเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน หากว่าน้ำไหลท่วมบ่าเข้ามาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างที่เพิ่งผ่านมานี้

ดังนั้นการที่พวกเราต้องช่วยกันรณรงค์ส่งเสริมให้ทุกคนหันมาเอาจริงเอาจังกับการช่วยกันดูแลรักษาความสมดุลให้กับโลกใบนี้ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมก็ทำได้หลายอย่าง เช่น การไม่ตัดไม้ทำลายป่า แต่ควรช่วยกันปลูกป่าเพิ่ม การลดการใช้ผลิตภัณฑ์จากน้ำมัน เช่น แก๊ส ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเชื้อเพลิง ผลิตภัณฑ์พลาสติกทุกชนิด แล้วหันมาร่วมกันผลิตพลังงานทางเลือกใช้แทน เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานจากมูลสัตว์ เป็นต้น

แล้วหากท่านตกอยู่ในภาวะเสี่ยงภัย กำลังเตรียมตัวรับสถานการณ์ร้ายๆ จากอุบัติภัยจากธรรมชาติทุกชนิด  สิ่งหนึ่งท่านควรกระทำนอกจากการย้ายตัวท่านเองไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยแล้ว ท่านควรมีสิ่งที่เรียกกันว่า "กล่องดำรงชีพ" ซึ่งมีทั้งแบบจำเป็นแบบที่ทหารเขานิยมใช้กันทั่วไปเวลาออกภาคป่า ภาคสนามฝึก หรือออกรบเลยก็ได้ โดยที่พวกเขาจะนำไปห้อยไปใส่ไว้ใน "สายเก่ง" หรือ "สายลัดทึบ" ที่หน้าอกด้านซ้าย ที่จะประกอบด้วย
1) กล่องกันน้ำได้ขนาดเล็ก                       6) เกลือ                                  
2) เข็ม                                                   7) เม็ดแมงลัก            
3) ด้าย                                                8) ตัวเบ็ดตกปลา 3 อัน พร้อมสาย
4) พลาสเตอร์ยาแปะแผล                      9) ใบมีดโกน
5) ยาแก้ปวดลดไข้เป็นหวัด ท้องเดิน        10) ไฟแช็ค
วิธีนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับพลเรือน หรือประชาชนทั่วไปที่ต้องการจะมีหรอกนะคะ  เพราะเวลาที่พวกท่านได้เจอกับเหตุการณ์คับขันแล้ว  สิ่งใกล้ตัวและหัวใจให้อยู่รอดได้ต่อไปเหล่านี้แหล่ะค่ะ คือคำตอบที่สามารถจะยืดอายุของตัวท่านและคนที่ท่านรักและห่วงใยได้ทั้งนั้นค่ะ  แต่สำหรับ "ชุดดำรงชีพของพลเรือน" ที่ทางหน่วยงานภาครัฐตามที่"ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ"(National Disaster Warning Center) Hotline 192  http://www.ndwc.go.th/web/ ได้แนะนำให้เตรียม คือ "ชุดดำรงชีพสำหรับใช้ในบ้าน" หรือ "สำหรับการอพยพหนีภัย" มีดังนี้ คือ (มันอาจจะดูเหมือนเยอะจริง  แต่ท่านคงปฎิเสธไม่ได้หากลูกหลาน คุณพ่อคุณแม่ หรือคนที่คุณรักกำลังต้องการมันมากินมาใช้ตอนเกิดอุบัติภัยขึ้นจริงๆ)
1) อาหารสำเร็จรูปที่เพียงพอต่อการบริโภคอย่างน้อย 3 วัน/คน
2) น้ำสะอาด เพื่อการบริโภค ไม่น้อยกว่า 2 ลิตร/คน/วัน
3) ยาสามัญประจำบ้าน  และยาสำคัญที่จำเป็นแต่ละบุคคล
4) ไฟฉาย ถ่านไฟฉายสำรอง เทียนไข ไม้ขีดไฟ/ไฟแช็ค
5) เชื้อเพลิง หรือถ่านสำหรับเตาหุงต้ม
6) เสื้อผ้า ชุดชั้นใน ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ และแว่นตา
7) มุ้ง หมอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว รองเท้ากีฬา
8) เงินสด บัตรเดบิต บัตรเครดิต เช็ค ของมีค่าติดตัว เช่น ทอง นาค เงิน ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้
9) กระติกน้ำแข็ง กาน้ำร้อน แก้วน้ำ ชาม ช้อนกินข้าว มีด พร้า (ไว้ปลอกมะพร้าวกิน/ตัดสิ่งกีดขวาง)
10) อาหารสัตว์ (หากท่านมีสัตวเลี้ยง)
11) วิทยุที่ใช้แบตเตอรี่ ควรมีแบ็ตเตอรี่สำรอง
12) เข็มทิศ เทอร์โมมิเตอร์
13) เอกสารแสดงตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชร ใบขับขี่ พาสปอร์ต วีซ่า หนังสือเดินทาง
14) หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ เช่น สถานีตำรวจ ดับเพลิง อพปร. เทศบาล อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
15) ศูนย์ช่วยเหลือต่างๆ เพื่อกางเต้นท์นอนพักอาศัยชั่วคราว เพื่อจอดพักรถ
16) หนังสือ ของเล่นเด็ก เกมส์
ทุกอย่างที่เราได้นำเสนอไปอาจจะเป็นเพียงข้อเสนอแนะเท่านั้น ไม่ได้บังคับท่านๆ ต้องเอาไปทั้งหมด เอาอะไรไปได้ก็เอาไป เพราะเวลาเกิดปัญหา "คนเรามักจะไร้สติ" คิดเพียงเอาชีวิตรอดไว้ก่อนเป็นพอ  ก็มีหลายๆ ท่านพอตกอกตกใจมากๆ นึกอะไรไม่ออกสุดท้ายก็เพียงอุ้มลูกอุ้มหลานเอาชีวิตตัวเองให้รอดมาด้วยกันเป็นพอ  อย่างอื่นมาตายเอาดาบหน้า หวังเพียงว่าจะมีผู้ใจบุญหนุนนำช่วยเหลือ หรือหวังให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้ามามอบถุงยังชีพ เอื้อเฟื้อสถานที่ให้พักพิงชั่วคราว ดังที่เราเห็นในโทรทัศน์ทุกช่องได้รายงานข่าวเหตุการณ์แบบถ่ายทอดกันสดๆ จากสถานที่จริงให้พวกเราได้เห็นกันจะๆ  (Realtime) และเพื่อประกาศให้ทุกคนได้รับทราบสถานการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น และจะได้เตรียมตัวกันถูก และรวมถึงช่วยเป็นสื่อกลางให้ผู้ที่อาจจะพลัดหลงวงศ์ญาติได้มาพบกัน บางบ้านตกอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด ทั้งคนและสัตว์ ต่างหนีตายกันจ้าละหวั่นในนาทีวิกฤติ  ลูกเด็กเล็กแดงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือ แค่ได้อาศัยโรงเรียนเป็นที่พักผ่อนหลับนอนกินอยู่ก็เก่งแล้ว  เห็นแล้วทำให้รู้สึกสงสารพวกผู้ประสบภัยยิ่งนัก  สำหรับวัดวาอารามไม่ต้องพูดถึง จากเคยเป็นจุดศูนย์ใจให้ญาติโยมมารวมกันทำทานสร้างบุญร่วมบริจาคสิ่งของถวายแก่วัด แต่ตอนนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า "วัด" คือ "สถานธรรมสงเคราะห์" ที่กลายเป็นสถานสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือญาติโยมให้ได้อาศัยวัดเป็นที่อยู่อาศัยพักพิงหลับนอนกินอยู่บ้าง ที่กล่าวอย่างนี้ได้  ก็เพราะตัวอย่างที่เราเห็นกันชัดๆ อย่างกรณี "มหาอุทกภัย" ครั้งล่าสุด ปลายปี 54 นี้เป็นต้น   และสิ่งสำคัญที่เราประสงค์จะให้ผู้อ่านได้มีความระมัดระวังไม่ประมาทกับอุบัติเหตุเภทภัยได้ง่ายๆ หรือหากจะต้องรับมือกับมันจริงๆ ก็จะได้มีหนทาง มีแนวทาง มีความรู้เท่าทันเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจกันไว้  ก็โดยการฝากคลิปเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำบนโลกที่เราอยู่นี้เสมอๆ  และโปรดอย่าคิดชะล่าใจว่าจะเกิดเฉพาะที่ประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงเท่านั้น  เพราะหากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเพราะฝีมือพวกเราอย่างหนักและสะสมมานานๆ อย่างนี้แล้ว  ความแปรปรวนของธรรมชาติก็ย่อมผันผวนได้เช่นกัน ใครจะไปทราบว่าอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าเมืองไทยเราอาจจะมีหิมะตก หรือหนักถึงขั้นหิมะถล่มเลยก็เป็นได้ แล้วหากเกิดขึ้นจริงๆ ท่านมีแผนที่จะรับมือกับมันแล้วหรือยังคะ?!  ไม่ว่าใครจะทำนายทายทักว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคตก็ตาม  แต่สิ่งที่เราควรทำก่อนเลยก็คือ "จิตใจที่เข้มแข็ง" ที่จะต้องยอมรับสภาพและต้องสู้กับมันให้ได้เพื่อให้เราอยู่รอดได้ต่อไปนั่นเอง  ณิคกี้ขออวยพรให้ทุกท่านปลอดภัยและโชคดีมีทางรอดในท้ายที่สุดนะคะ












ณิคกี้ว่ายน้ำไม่เก่ง จึงไปฝึกเรียนดำน้ำ จะได้เตรียมตัวเป็นมนุษย์น้ำไงคะ
ครอสนี้มีฝึกการดำรงชีพด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าการเอาตัวรอดทำได้อย่างไรนั่นเองค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กล้วยกับการบำรุงรักษา, วิธีการปลูกกล้วย, กล้วยตายเพาะน้ำท่วมทำไงดี,ใส่ปุ๋ยเร่งกล้วยโตไวใช้วายไอซี.แคปซูลนาโน,กล้วยหอมผลไม้ที่ชาวญีปุ่นและอังกฤษชื่นชอบ,กล้วยหอมอร่อยหวานต้องบำรุงด้วยปุ๋ยอินทรีย์เอ.ไอ บิสเน็ต(ไทย)

"อาหารเสริมพืช วายไอซี. แคปซูลนาโน" (YIC.CAPSULE NANO)
นวัตกรรมใหม่ของปุ๋ยนาโนสูตรผง
น้องใหม่มาแรง เพียงกระปุกละ 2,500 บ. (ปกติ 3,500 บ.)
บรรจุ 120 แคปซูล ฉีดพ่นนาข้าวได้ 60 ไร่ (เล็กพริกขี้หนูของจริง)
สูตรจากประเทศแคนาดาและอิสราเอล
ใช้ได้กับนาข้าว พืช ผัก ผลไม้ และเห็ด ได้เป็นอย่างดี
จะผสมน้ำฉีดพ่น  ราดโคน และคลุกปุ๋ยอินทรีย์ก็จะเพิ่มคุณภาพปุ๋ยเทียบเท่าปุ๋ยเคมีเกรด A



ตอนนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีปัญหาน้ำท่วมหลายแห่ง  แล้วทำให้เกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกนั้นมีความเดือดร้อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนาข้าว พืชไร่ พืชสวน พืชผัก ไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ ฟาร์มเห็ด และรวมถึงพวกฟาร์มปศุสัตว์เลี้ยงหมู ไก่ ปลา กบ จระเข้ และอีกมายหมาย 

สำหรับวันนี้เราขอเปิดประเด็นเรื่องการเพาะปลูกกล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยเทพพนม กล้วยเล็บมือนาง กล้วยนาก กล้วยหักมุก และกล้วยอีกหลายชนิด ที่เกษตรกรทำการเพาะปลูกใกล้แหล่งน้ำ โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน เจ้าพระยา ป่าสัก และแม่น้ำทางอีสาน และภาคใต้อีกหลายๆ สาย ที่ต่างก็ประสบปัญหาน้ำท่วมหลากไปหลายพื้นที่กินเนื้อที่กว้างมากๆ  อย่างล่าสุดน้ำท่วมหนัก จนเรียกกันว่า "มหาอุทกภัย" มีเกษตรกรที่ปลูกกล้วยหลายๆ จังหวัด ประสบปัญหากล้วยยืนตาย เพราะกล้วยแช่อยู่ในน้ำนานนับเดือนนั่นเอง บางแห่งเพิ่งเพาะปลูกกันไปเกือบจะได้เก็บเกี่ยวแล้ว ก็ยังไม่วายโดนผลกระทบน้ำท่วมรอบสองซ้ำเข้าไปอีก  ดังนั้นดิฉันผู้ที่ได้เห็นความทุกข์ยากในภาพตามข่าวแล้วก็อดเห็นใจพวกเขาไม่ได้   จึงได้หาข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกกล้วยมานำเสนอให้เกษตรกรได้นำไปปรับใช้กับการเพาะปลูกกล้วยให้ได้ผลในระยะเวลาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ทันกับผู้บริโภคทั่งในและต่างประเทศที่รอรับประทานกล้วยจากสวนกล้วยของท่านอย่างใจจดใจจ่อนั่นเอง  ที่ดิฉันกล้ากล่าวเช่นนี้ก็เพราะ การปลูกกล้วยไม่ใช่ว่าเกษตรกรจะจำหน่ายเฉพาะผลเพียงอย่างเดียว  ตรงกันข้ามค่ะ จริงๆ แล้วทุกๆ ส่วนของต้นกล้วยไม่ว่าจะเป็น ใบกล้วย ปลีกล้วย หยวกกล้วย ลำต้นกล้วย และรวมกระทั่งหน่อกล้วยพร้อมปลูกอีกด้วย  เห็นไหมคะ?  กล้วยมีค่ามากมาย จนบางท่านอาจจะคิดไม่ถึงด้วยซ้ำไปค่ะ  สำหรับเรื่องพื้นที่เพาะปลูกกล้วยนั้น  ท่านเกษตรกรควรที่จะต้องเร่งเตรียมดิน ปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์บ้างบางส่วน เพื่อใช้เป็นพื้นที่เพาะปลูกหน่อกล้วยรอบใหม่หลังน้ำท่วมแล้ว  เกษตรกรอาจจะมีการเร่งผลผลิตกล้วยด้วยการให้ปุ๋ยทางใบ โดยการผสมน้ำแล้วใช้ฉีดพ่นใส่ต้นพืช ไม่ว่าจะโดนลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ราก และดอก พืชก็สามารถนำไปสร้างความเจริญเติบโตได้ทันที

ภาพในอดีต เราเหน็ดเหนื่อยกับการใช้ปุ๋ยกระสอบกันมากๆ และลงทุนสูงมากๆ ด้วยค่ะ จนกระทั่งเรามาพบปุ๋ยนวัตกรรมนาโน "อาหารเสริมพืช วายไอซีแคปซูลนาโน และวายไอซีนาโนพลัส หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า "ชุดคู่ขวัญนาโนเยสไอแคน" ก็ได้ค่ะ ทำให้เราลดปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยอินทรีย์กระสอบลงไปครึ่งหนึ่ง แล้วพอเอาเงินส่วนต่างมาซื้อปุ๋ยคู่ขวัญนาโนฯ ก็ยังมีเงินเหลือไว้ทำอย่างอื่นได้สบายๆ เลยค่ะ สนใจเป็นตัวแทน หรือทดลองใช้ โทร.08 9601 5286, 08 1988 3799 Line: nickynano ก็ได้คะ


ขอแนะนำ น้องใหม่ล่าสุด มาแรงแซงโค้งจ้า (New product)
YIC. Capsule Nano Fertirizer by organic biotech system very good for your plant ; Rice, Sugar Cane, Rubber, Cassava, Palm, Corn, Nuts, Bean, Lime, Mushroom, Potato, Fruit, Vegetable, Chilli, Flower, Orchid, Ornamental plants.  Only mix with some water  following mixing ratio and spray to your plant every 7 - 15 days.   Save your cost and safe for your health.


YIC. Capsule Nano 1 Bottle = 3,500 Baht. (Member Only 2,500 Baht.)
Quantity = 120 Capsule.
(Not Include Transportation & Tax duty)