http://xn--b3cai0c8bbr7br2ccbc72a.com/ "ร้านอาหารชาญชล ฐานทัพเรือสัตหีบ มีอาหารให้เลือกรับประทานหลากหลายเมนู ดูวิวทะเลสวย พร้อมด้วยเสียงเพลงไพเราะ เหมาะสำหรับจัดเลี้ยงสังสรร จัดประชุม สัมมนา งานมงคลสมรส สนใจติดต่อคุณลิลลี่ 08-7242 5557
มีหลายๆ ท่านสงสัยว่าทำไมคนเราต้องทานผัก ผลไม้ และเห็ด เพื่อให้สุขภาพดีเพราะระบบขับถ่ายดี "แน่นอน" ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าในพืช ผัก ผลไม้ และเห็ด ล้วนมีเส้นใยไฟเบอร์สูงนั่นเอง ดังนั้นในวิชาสุขศึกษาที่เราต่างร่ำเรียนกันมา ครู อาจารย์จะเน้นเสมอว่า "เราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในแต่ละวัน" และสำหรับกลุ่มคาร์โบไฮเดรท โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ นี้จะมีอยู่ในเห็ดครบครัน สารอาหารจะสูงหรือต่ำ ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเห็ด และสำหรับรสชาดก็ไม่แพ้เนื้อสัตว์เลย ทั้งนี้ก็เพราะว่ารสชาดอาหารที่ปรุงโดยเห็ดจะมีกรดกลูตามิก ซึ่งเป็นกรดอะมิโน และยังมีสารกัวไนเลต (สารในกลุ่มไรโบนิวครีโอไทด์) ที่จะช่วยในการเกิดรสชาติที่อร่อยโดยธรรมชาตินั่นเอง แต่ทว่าโปรตีนในเห็ดจัดเป็นโปรตีนพวกที่ไม่สมบูรณ์บางส่วน เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ แต่ก็ยังมีคุณภาพดีกว่าในผักชนิดอื่นๆ
สำหรับเห็ดที่เราชื่นชอบประโยชน์ของเขาอีกอย่างก็คือ เห็ดนั้นยังทำให้คนอยากผอมต้องเหลียวหลัง เพราะมันปราศจากไขมัน มีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำ ผู้รักสุขภาพมักนำเห็ดไปปรุงเป็นอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักกันอย่างแพร่หลายทั่วทุกภาค และทั่วโลก
ที่ดิฉันกล้ากล่าวอย่างนี้ ในฐานะของผู้ที่อยู่ในวงการเพาะเห็ดก็เพราะว่า พอเราทำฟาร์มเห็ดทานเอง ในบ้าน พร้อมกับทำธุรกิจในครัวเรือนโดยบริการจำหน่ายอุปกรณ์เพาะเห็ดและฮอร์โมนบำรุงเห็ดให้เพื่อนฟาร์มทั่วโลก เราก็ต้องมีการติดต่อสอบถาม แชร์ประสบการณ์ ฟังปัญหาเล่าสู่กันฟัง และนี่เองทำให้ดิฉันได้รับประโยชน์จากการมีเพื่อนฟาร์มเป็นกัลยานมิตรแบ่งปันกันทั่วทุกภาคของประเทศไทยในนามของ
http://www.phikanes.com/ และ
http://www.phikanesplaza.com/ ด้วยนั่นเองค่ะ
เดี๋ยวเรามารู้จักประโยชน์ของเห็ดแต่ละชนิดกันบ้างดีกว่านะคะ ว่าที่เรารู้จัก ได้ยินชื่อนั้น และ/หรือเคยรับประทานอยู่บ่อยๆ นั้น แท้ที่จริงแล้ว เขาให้ประโยชน์อะไรกับเราบ้างดีกว่านะคะ
1) เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า และเห็ดเป๋าฮื้อ มีหลายคนเชื่อว่าสามารถป้องกันโรคหวัด ช่วยการไหลเวียนเลือด และโรคกระเพาะอาหารได้ดี
2) เห็ดฟาง ให้วิตามินซีสูง และมีกรดอะมิโนสำคัญอยู่หลายชนิด หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันการติดเชื้อต่างๆ อีกทั้งยังช่วยลดความดันโลหิตและเร่งการสมานแผล
3) เห็ดเข็มทองหากเรานำมาปรุงอาหารรับประทานเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคตับ กระเพาะ และลำไส้อักเสบเรื้อรังได้
4) เห็ดหูหนู สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาวในผู้สูงอายุ ทำให้ภูมิต้านทานร่างกายดีขึ้น รวมทั้งช่วยรักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง
5) เห็ดกระดุมหรือเห็ดแชมปิญอง มีบทบาทในการรักษาและป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมมากที่สุด
6) เห็ดหอม หรือเห็ดชิตาเกะเป็นยาอายุวัฒนะ เพราะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด อีกทั้งยังเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็งด้วย
7) เห็ดหลินจือ มีเบต้ากลูแคน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย รวมทั้งกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัส
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่เพียงแต่ความอร่อยลิ้นเท่านั้น เพราะเห็ดยังมีสรรพคุณทางยาด้วย
ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยอัตราความเสี่ยงจากโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน อัลไซเมอร์ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน และความดันโลหิตสูง อีกด้วยค่ะ
และนอกจากนี้ ที่สำคัญเราไม่ควรเก็บเห็ดไว้รับประทานนานเกินไป เนื่องจากจะมีการเปลี่ยนแปลงของสารเคมี เพราะในเห็ดก็จะมีกรดอะมิโนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสารที่เรียกว่า Biogenic amine ที่จะทำให้เกิดการแพ้อาหารได้ รวมทั้งควรรับประทานเห็ดแต่พอควร อย่ารับประทานจนอิ่มมากเกินไป เพราะเห็ดเป็นอาหารที่ย่อยยาก อาจจะทำให้ผู้ที่มีระบบย่อยอาหารที่อ่อนแอ เกิดอาการเป็นพิษได้ และยังต้องระมัดระวัง คัดเห็ดที่เน่าเสียออก เห็ดที่เน่าเสียจะทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้เช่นกันค่ะ
และช่วงท้ายนี้ ดิฉันอนุญาตกล่าวถึงผู้ที่ได้แบ่งปันประโยชน์ของเห็ดโดย คุณเนตรนภิส ธนนิเวศน์กุล นักเขียนหมอชาวบ้าน อธิบายว่า การที่เห็ดมีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงผัก โดยเฉพาะเส้นใยอาหาร จึงช่วยเพิ่มปริมาณและน้ำหนักอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายได้ง่าย นอกจากนี้ ยังช่วยจับสารเคมีที่เป็นพิษ และทำให้ผ่านลำไส้ได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ ดังนั้นถ้าเรารับประทานข้าวที่มีผักหรือผักกับเห็ดเป็นองค์ประกอบทุกมื้อ (1 ทัพพีต่อมื้อ) และมีผลไม้หลังอาหารก็จะได้เส้นใยอาหารอย่างเพียงพอ
และเธอยังได้ขยายความต่ออีกว่า
"ถึงเห็ดจะดีอย่างไร ก็ไม่ควรกินเห็ดสดๆ แต่ควรนำไปผ่านกระบวนการความร้อนก่อน" เพราะจากการศึกษาการทดสอบการย่อยของโปรตีนในเห็ดระหว่างเห็ดหอมสดกับเห็ดหอมต้มสุกกับอบแห้ง พบว่าเห็ดหอมสดที่ผ่านการปรุงสุกนั้นย่อยได้มากกว่า เหตุผลคือ ความร้อนอ่อนๆ จากการต้มจะทำให้โปรตีนในเห็ดเปลี่ยนแปลงสภาพไป และช่วยในการย่อยด้วยเอนไซม์ดีขึ้น หรือกล่าวได้ว่าในเห็ดสดๆ อาจมีสารยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในการย่อยโปรตีนนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจเคยทราบมาก่อนแล้วว่าถ้านำเห็ดอย่างน้อย 3 ชนิดใดก็ได้เมื่อนำมาปรุงเป็นอาหาร ความมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นและเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ให้ทั้งความอร่อยและสุขภาพนั่นคือ "เมนูเห็ดล้างพิษ" จะเป็นเห็ดสด หรือ เห็ดแห้งก็ได้โดยนำมาปรุงอาหารแล้วกินได้ทั้งเนื้อเห็ดและนํ้าต้มเห็ดแล้วจะได้โปรตีนจากเห็ดที่ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ง่ายกว่าเนื้อสัตว์
ประโยชน์ของเห็ด 3 อย่าง เมื่อนำมารวมกันปรุงอาหาร คือ
1) สามารถช่วยล้างพิษที่สะสมในตับ ทั้งจากอาหารและสารเคมี เช่น พิษจากสุรา สารตกค้างในเนื้อสัตว์
2) สารเคมีจากเครื่องสำอาง (ลิปสติกสีสด ยาย้อมผม)สามารถช่วยให้การทำงานของตับแข็งแรงขึ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงดีส่งผลทำให้อารมณ์ดี
3) สามารถช่วยล้างพิษพวกอนุมูลอิสระ ซีสต์ เนื้องอก มะเร็ง อัลฟาท็อกซิล ไวรัสตับอักเสบ สเก็ดเงิน
4) สามารถช่วยล้างไขมันในตับ
วิธีการปรุง
นำเห็ดที่ทานได้อย่างน้อย 3 อย่าง เช่น เห็ดหูหนูต่างๆ เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า เห็ดโคน เห็ดเข็มทอง
ปรุงเป็นอาหาร เช่น ยำ ใส่ในแกงจืด แกงเลียง แกงส้ม ไข่ตุ๋น
ต้มน้ำดื่มจะผสมใบมะตูม ใบเตยหรือเพิ่มน้ำตาลกรวด
หมายเหตุ: ข้อควรหลีกเลี่ยง การผัดกับน้ำมันพืช***
หากท่านใดสนใจศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเพาะเห็ดไว้รับประทานในบ้าน และ/หรือต่อยอดเชิงพาณิชย์ โทรหาดิฉันณิคกี้ ที่ 08-9601 5296 หรือที่ E-mail:preeyapat.ka@live.com ได้ตลอด 24 ช.ม. ค่ะ
 |
บรรจุกระปุกละ 120 แคปซูล ราคากระปุกละ 3,500 บ.
ราคาสมาชิกเพียง 2,500 บ.สมัครสมาชิกตลอดชีพ 350 บ.ฟรีอีก 20 แคปซูล)
ยินดีแบ่งจำหน่าย 6 แคปซูล 300 บ. หรือ 20 แคปซูล 1,000 บ. ส่งฟรีทาง EMS |
 |
| ผักไฮโดรโปนิค "เรดโอ๊ค" ก็บำรุงด้วย YIC ฉีดพ่น |
หรือรับตัวแถมเป็นYIC.นาโนพลัส 50 c.c.>
