PHIKANES2515

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

งานเปิดตัว X-Factor ของYES I CAN, X-Factor สเปรย์นาโนใต้ลิ้นช่วยป้องกันโรคพาร์กินสัน, มารู้จักโรคพาร์กินสัน, ใครเสี่ยงกับการเป็นโรคพาร์กินสันบ้าง, วิธีป้องกันรักษาโรคพาร์กินสัน, เป็นเบาหวานไม่ต้องตัดขาทำไงดี





งานเปิดตัว YIC.GRAND OPENING FOR "X-FACTOR" AT TOWN IN TOWN HOTEL.(Nov.24,2013)



มารู้จัก"โรคพาร์กินสัน(Parkinson's Disease)" กันไว้ก่อนจะสายเกินไป
"โรคพาร์กินสัน" ถูกค้นพบครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.1817 โดย ดร.เจมส์ พาร์กินสัน อายุรแพทย์ชาวอังกฤษ แต่มาพูดถึงกันมากขึ้นเมื่อมาเป็นกับคนดังอย่างอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน และนักแสดงไมเคิล เจ ฟ็อกซ์ อัตราการเป็นโรคพาร์กินสันของเมืองไทยและทั่วโลก คือใน 1,000 คน จะเป็นโรค
พาร์กินสัน 3 คน โรคนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ทั้งเพศชายและเพศหญิง แต่ก็มีผู้ป่วยประมาณ 5-10% ที่มีอายุในช่วง 40 ปีหรือต่ำกว่านั้นก็ได้
      
าเหตุของโรคพาร์กินสัน
       โรคพาร์กินสันเกิดจากการขาดสารโดปามีนในสมอง เนื่องจากเซลล์สมองส่วนที่ผลิตโดปามีนเสื่อมหรือตายไป สารโดปามีนมีความสำคัญต่อการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อ 80% ของการสร้างโดปามีนในสมองเริ่มเสื่อมถอยลง อาการของโรคพาร์กินสันก็จะเกิดขึ้น
      
       ปัจจุบันแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคนี้ สันนิษฐานว่าการเสื่อมหรือตายของเซลล์สมองอาจเกิดขึ้นเองจากความชราภาพของสมอง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้แก่
      
       - การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยากล่อมประสาท ยารักษาความผิดปกติทางจิตบางชนิด หรือยาลดความดันโลหิตสูงที่ออกฤทธิ์กดหรือต้านการสร้างสารโดปามีน
       - โรคหลอดเลือดในสมองอุดตัน ทำให้เซลล์สมองที่สร้างสารโดปามีนมีจำนวนน้อยลงหรือหมดไป
       - สมองขาดออกซิเจน เช่น ผู้ป่วยที่จมน้ำ ถูกบีบคอ หรือมีการอุดตันในทางเดินหายใจจากเสมหะหรืออาหาร
       - สมองอักเสบ เนื้องอกในสมอง
       - การได้รับสารพิษที่ทำลายสมอง เช่น แมงกานีสในโรงงาน พิษจากสารคาร์บอนมอนนอกไซด์
       - อุบัติเหตุที่ทำให้ศีรษะถูกกระทบกระเทือน หรือศีรษะถูกกระแทกบ่อยๆ เช่น อาชีพนักมวย
       - โรคทางพันธุกรรม เช่น โรควิลสัน ซึ่งเป็นโรคตับพิการร่วมกับโรคสมอง เนื่องจากมีธาตุทองแดงไปเกาะในตับและสมองมากจนเป็นอันตราย ทำให้เซลล์สมองเสื่อมได้
      
อาการของโรคพาร์กินสัน       โรคพาร์กินสันจะมีอาการแสดงของโรคมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วย ระยะเวลาการเป็นโรค และภาวะแทรกซ้อนที่ตามมา อาการของโรคจะมีลักษณะเด่น คือ
      
       อาการสั่น ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของโรค โดยจะมีอาการสั่นมากเวลาอยู่นิ่งๆ แต่ถ้าเคลื่อนไหว อาการสั่นจะลดลงหรือหายไป ซึ่งจะตรงข้ามกับอาการสั่นของผู้สูงอายุทั่วไปที่จะสั่นมากเวลาเคลื่อนไหวทำงาน แต่เมื่ออยู่เฉยๆ จะไม่มีอาการสั่น อาการสั่นของโรคอาจเริ่มเกิดขึ้นที่มือ แขน ขา คาง ศีรษะ หรือลำตัว ระยะแรกอาจเกิดข้างเดียวก่อน ต่อมาจะมีอาการทั้งสองข้าง
      
       อาการเกร็ง จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะแขน ขา และลำตัว โดยที่ไม่ได้เคลื่อนไหวหรือทำงานหนักแต่อย่างใด กล้ามเนื้อจะแข็งตึงและเกร็งอยู่ตลอดเวลา ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก
       จนผู้ป่วยบางรายต้องกินยาแก้ปวดเมื่อย หรือทายาบรรเทาอาการ หรือต้องบีบนวดคลายเส้นอยู่เป็นประจำ
      
       อาการเคลื่อนไหวช้า ผู้ป่วยในระยะแรกๆ จะรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรช้าลงไปจากเดิมมาก ไม่กระฉับกระเฉงว่องไวเหมือนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่เริ่มต้นเคลื่อนไหว
      
       ในรายที่เป็นมากจะมีความผิดปกติของท่าทางและการทรงตัว เช่น ท่าเดินผิดปกติไป ผู้ป่วยจะมีท่าเดินที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่ผิดจากโรคอื่นๆ คือจะก้าวเดินสั้นๆ แบบซอยเท้าในช่วงแรกๆ ต่อมาจะก้าวยาวขึ้นเรื่อยๆ จนเร็วมาก และหยุดทันทีทันใดไม่ได้ และไม่สามารถบังคับทิศทางในการเดินได้ ในรายที่เป็นมากจึงพบว่ามีการหกล้มบ่อยๆ จนเกิดการบาดเจ็บได้
      
       ผู้ป่วยจะเดินหลังค่อม เวลาเดินจะไม่สามารถแกว่งแขนไปมาได้ นั่งตัวเอียง มีสีหน้าเมินเฉย ไม่มีอารมณ์ เสียงพูดเบามากและไม่ชัดเจน เมื่อพูดนานๆ ไป เสียงจะค่อยๆ หายไปในลำคอ รวมทั้งมีน้ำลายสออยู่ที่มุมปากทั้งสองข้างและอาจไหลเยิ้มออกมาโดยไม่สามารถควบคุมได้
      
อาการแทรกซ้อนอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่       อาการท้องผูกเป็นประจำ เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวน้อย เคลื่อนไหวลำบาก ประกอบกับไม่ค่อยดื่มน้ำ ไม่รับประทานผักหรือผลไม้ และยารักษาโรคพาร์กินสันมักมีผลข้างเคียงที่ทำให้ท้องผูกได้
      
       อาการปวด อาจปวดแบบกล้ามเนื้อเกร็ง ปวดขา ปวดหลัง หรือปวดในตำแหน่งต่างๆ ของร่างกายอย่างมาก โดยเฉพาะเวลานอน จนทำให้นอนไม่หลับ อาจต้องรับประทานยาแก้ปวด ซึ่งต้องระวังปัญหาเลือดออกในกระเพาะอาหาร รวมไปถึงอาการอ่อนเพลีย ซึ่งมักพบได้บ่อยๆ ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีงานมาก เครียดหรือกังวล ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อลดอาการอ่อนเพลียที่จะส่งผลต่อจิตใจได้
      
       อาการท้อแท้และซึมเศร้า นอกจากผู้ป่วยจะมีการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมองแล้ว ผู้ป่วยจะไม่สามารถกระฉับกระเฉงได้เหมือนเดิม หากขาดการดูแลเอาใจใส่ก็จะยิ่งเกิดความท้อแท้เบื่อหน่ายในชีวิตและคิดว่าตนเป็นภาระต่อครอบครัว ภาวะซึมเศร้านี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ผู้ป่วยอาจคิดสั้นได้ ในรายที่มีอาการมาก จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์หรือจิตแพทย์ เพื่อการบำบัดรักษาที่ถูกต้องต่อไป
บรรจุด 20 ml. ใช้ได้นาน 45 วัน ฉีดพ่นครั้งละ 2 ปื้ด เช้า-ค่ำ

ชุดทดลอง 4,500 บ.(ปกติ 7,500บ.)

ชุดประหยัด 6,000 บ.(ปกติ 10,000บ.)







ผลการใช้ซุปเปอร์ 3S&YIC.NANOแก้ยางหน้าตายได้จริง, ยางหน้าแล้งกรีดได้ทำไง, ใช้อะไรช่วยหน้ายางนิ่มกรีดง่ายไม่โทรม, บำรุงหน้ายางตายนึ่งฟื้นคืนชีพด้วยซุปเปอร์3S, ราคาซุปเปอร์3S&YIC.NANO, เปิดตัวศูนย์มังกรทอง(Golden Dragon)ของณิคกี้ยินดีให้บริการทุกสายงานด้วยความจริงใจ โทร.08 9601 5286




การบำรุงยางพาราหน้าแล้ง ชาวสวนยางหลายๆ ท่านเป็นกังวลว่า จะบำรุงกันลำบาก และไม่ทราบจะจัดการให้สามารถกรีดได้ หรือทนแล้งได้ดี เหมือนฤดูกาลอื่น ดังนั้น เมื่อดิฉันได้รับฟังปัญหาเหล่านี้บ่อยๆ แล้ว  ก็อดที่จะค้นหาสิ่งที่จะตอบโจทย์กรณียางฤดูแล้งให้สามารถเปิดกรีดได้เหมือนฤดูอื่นๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น ยางต้องไม่ทรุดโทรม น่ายังคงนิ่ม กรีดง่าย ได้เปอร์เซ็นน้ำยางเข้มข้นได้มาตรฐาน ตอนนี้ท่านเกษตรกรชาวสวนยาง คงอยากจะทราบกันแล้วว่า มันคืออะไรกันนะ "วายไอซีนาโนซุปเปอร์ 3 เอส (YIC.NANO SUPPER 3S) และ วายไอซีแคปซูลนาโน&วายไอซีนาโนพลัสน้ำ (YIC.Capsule Nano & YIC.Nano Plus)" ทั้งหมดนี้สามารถตอบโจทย์ได้แน่นอน  เพราะทีมงานเราได้ทดลองประสิทธิภาพมาเรียบร้อยแล้ว  โดยใช้เวลาพิสูจน์ทราบเพียง 15 วัน เท่านั้นเองค่ะ ก็ทราบผลเรียบร้อย  ดังคลิปวีดิโอที่นำเสนอข้างบนนั่นเองละค่ะ 

สำหรับวิธีใช้นั้น ในชุด ซุปเปอร์ 3 เอส ประกอบด้วย Spring ใช้กำจัดเชื้อราไฟทอปเธอร่า + Spark ใช้รักษาอาการยางตายนึ่ง หรือยางหน้าตาย คู่นี่คือ คู่เอก ในการฟื้นคืนชีพให้ยางพาราคาของเรากลับมามีน้ำยางไหลตามมีดได้เหมือนเดิม ทุกอายุค่ะ ระหว่าง 7 - 25 ปี และสำหรับอีกตัวหนึ่ง คือ Speed นั้น ใช้สำหรับบำรุงยางพาราที่มีอายุตั้งแต่เปิดกรีด จนถึง 15 ปี เพื่อบำรุงเร่งน้ำยางให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยที่หน้ายางยังคงนิ่มกรีดง่าย ท่อน้ำยางแข็งแรง จึงผลิตน้ำยางได้ต่อเนื่องนั่นเอง ดังนั้นเมื่อมีชาวสวนยางทั่วประเทศเลือกใช้ชุดแก้ปัญหายางพาราชุดนี้แล้ว ก็ประทับใจและบอกกันไป 

ชุดซุปเปอร์ 3S ราคาปกติ 5,400บ.
แต่ราคาสมาชิกเพียง 3,600บ.
บรรจุขวดละ 250 ซี.ซี.


ราคาปกติ ทั้งขวด และกระปุก เพียง 3,500บ. (ปกติ)
แต่ราคาสมาชิกเพียง อย่างละ 2,500บ.เท่านั้น
แบบน้ำบรรจุ 500 ซี.ซี. แบบแคปซูลมี 120 แคปซูล
ให้ใช้ผสมรวมกันในอัตราน้ำ 3 ซี.ซี.+แคปซูล 3 แคปซูล
จะสามารถฉีดได้ 200 ต้นต่อครั้ง ทุก 15 วัน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ใช้คู่กับ Spring + Spark อย่างละ 1 ซี.ซี.



ราคาซุปเปอร์ 3S ที่มีทั้ง 3 ชนิด คือ Spring + Speed + Spark ราคาปกติ 5,400 บ.(ราคาสมาชิกเพียง ชุดละ 3,600บ.) บรรจุขวดละ 250 ซี.ซี. ใช้ได้หลายหลายพันต้น กรณี ผสมน้ำฉีดพ่นรวมกับ YIC.NANO แต่ถ้าใช้ทาป้ายหน้ายาง (สำหรับ Speed & Spark) จะใช้ได้ประมาณ 70-100 ต้น ซึ่งส่วนใหญ่ยางที่มีปัญหาเป็นยางหน้าตาย หรือยางตายนึ่งนั้น ในแต่ละสวนจะมีเพียงไม่กี่ต้น นับว่าเป็นส่วนน้อยที่จะใช้ในแต่ละสวนเท่านั้นค่ะ ช่วงการใช้ก็เพียง เดือนละครั้งเท่านั้นค่ะ สำหรับ Speed ใช้ป้ายเพียงข้ามคืน หรือ 24 ช.ม. ก็เห็นผลว่าน้ำยางไหลเพิ่มมากขึ้นทันทีเลยค่ะ แต่สำหรับ Spark จะเริ่มเห็นผลความเปลี่ยนแปลงของน้ำยางที่หน้ายางตายนึ่ง หรือยางหน้าตายภายใน 7 - 15 วัน ทันทีหลังจากทาป้ายไป พร้อมกับฉีด Spring เพื่อกำจัดเชื้อราไปพร้อมๆ กัน  กรณีที่ชาวสวนยางต้องการจะซื้อเป็นคู่ ก็สามารถเลือกซื้อชุดคู่ขวัญ ได้เช่น Spring + Spark ขนาดบรรจุ 250 ซี.ซี. ราคาปกติ 3,600 บ. (ราคาสมาชิกเพียง 2,800 บ.) คู่นี้หากใช้ผสมน้ำฉีดพ่นพร้อมกับ YIC.NANO จะสามารถใช้ได้กว่า 50,000 ต้น เลยนะคะ ดังนั้นจึงไม่เปลืองเลยค่ะ  อย่างไรก็ตามหากท่านเกษตรกรท่านใดยังมีข้อสงสัยก็สามารถโทรมาปรึกษาหารือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อ.สมพงษ์ การัณยศิลป์ โทร.08 1988 3799 และณิคกี้(ผู้เขียน)โทร.08 9601 5286 ค่ะ