PHIKANES2515

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ณิคกี้พาเที่ยวกุ้ยหลิน, Nicky live in Guilin (China) 2015, อาหารเสริมเอ็กซ์แฟคเตอร์ ,ท่องเที่ยวกุ้ยหลิน, ชีวิตอิสระกับงานเครือข่ายดีดีกับเยสไอแคน, YES I CAN งาน บุญ กิน เที่ยว เรื่องเดียวกัน สนุกและมันส์ต้องที่เยสไอแคน, เกิดมาเพื่อใช้เศษกรรม ตอนที่ 17 เยือนกุ้ยหลิน


   

"หนีฮ่าว หนีฮ่าว" (แปลว่า เป็นประโยคทักทายกันประมาณว่าสวัสดี) กี้จำได้ไม่กี่คำ เคยเรียนมาตั้ง 3 ปี คืน เล่าซือหมดเลย แย่จังค่ะ จากทริปล่าสุดนี้ ณิคกี้และเพื่อนๆ ชาวออนไลน์ทีมไปกันทั้งหมด 6 ท่านค่ะ หากรวมคณะของบริษัท เยสไอแคนฯ ก็ไปกัน 90 ท่านค่ะ เราตั้งใจทำโปรโมชั่นให้ผ่าน ก็เพื่อหวังว่าจะได้ไปพักผ่อน กิน เที่ยว ช็อปปิ้งกันที่ตำบลหยางซั่ว เมืองกุ้ยหลิน ในมณฑลกวางตุ้ง และเราขึ้นเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูิม จ.สมุทรปราการ ประเทศไทยเรา โดยสายการบิน เคยย่าแอร์ไลน์ เที่ยวบิน KQ 886 กันตอน 13.55น. ค่ะ นั่งเครื่องราว 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงยังสนามบินกวางโจว ค่ะ เรียกว่าดูหนังบนเครื่องจบเรื่องกี้และเพื่อนๆ ก็ถึงปลายทางโดยสวัสดิภาพพอดีค่ะ




เมื่อถึงเราก็เช็คอินผ่าน ต.ม.เขา รับกระเป๋าเดินทางไปทานข้าวเย็นกันก่อนเข้าที่พักด้วยรถบัสที่ไกด์ท้องถิ่นเตรียมต้อนรับเราอยู่แล้วค่ะ  กี้สังเกตุดูเพื่อนๆ บางท่านผิดหวังเล็กน้อยถึงปานกลาง เพราะเราคาดเดาสภาพอากาศผิดพลาดกันนั่นเอง คือ ไม่หนาวเลยค่ะ บางวันกลับมีฝนตกด้วยซ้ำ เรียกว่าพอเย็นสบายได้เลยค่ะ  ระหว่างทางไปถึงที่ทานอาหารก็ฟังไกด์บรรยายถึงเรื่องที่พึงระวังในระหว่างท่องเที่ยว เวลาที่แตกต่างกันกับประเทศไทยเรา 1 ช.ม. ก็ต้องรีบปรับให้เป็นเวลาของเขาที่เร็วกว่าเรา 1 ช.ม. เพื่อลดการผิดพลาดเรื่องการนัดหมาย  ไกด์เราน่ารักมากๆ ค่ะ เขาเตรียมพวกน้ำพริก น้ำปลา น้ำจิ้มเอาไว้เอาใจพวกเรากันเต็มที่เรียกว่า มัดใจกัดสุดๆ อ่ะค่ะ น่ารักมาก เทคแคร์พวกเรากันแบบห้ามหาย ห้ามขาด เพราะเรากลุ่มใหญ่ ต้องช่วยกันตามให้พบให้เจอกันก่อนออกเดินทางต่อ เพราะมีบางท่านช็อบเพลินเดินกระจายสุดๆ ก็มีค่ะ เรียกว่าพอตื่นเต้นๆ


เราเริ่มต้นพักค้างคืนแรกที่โรงแรมที่กวางโจว 1 คืนค่ะ ก่อนที่จะออกเดินทางไปต่างมณฑล คือ มณฑลกวางตุ้ง เพื่อชมถ้ำเงินที่ต.หยางซั่ว อ.กวางซี บรรยากาศที่นี่ร้อนพอสมควรค่ะ แต่พอเข้าถ้ำนะคะ อากาศเย็นพอเดินสบาย ได้ชมความงดงามของถ้ำที่อดีตนั้นเคยเป็นถ้ำใต้น้ำใต้บาดาลมาก่อน จึงคงความอลังการเมื่อได้ต้องแสงไฟหลากสีเพิ่มความงดงามมากๆ ค่ะ ระยะทางสูงๆ ต่ำๆ มีน้ำหยดติ๋งๆ เป็นระยะๆเหตุนี้จึงทำให้หินงอกหินย้อยยังไม่ตาย คือ สามารถงอกต่อๆ ไปได้เรื่อยๆ นั่นเองค่ะ ที่นี่เขาโดดเด่นเรื่องการนำเหล้าเชี่ยงชุนที่บรรจุใส่ไหไว้ในถ้ำเพื่อรักษารสชาดที่ถูกคอท่านเซียนปุ๋ยนักแล เห็นยกโป้แล้วยกโป้อีก ก็คงต้องเชื่อตะแกละอีงานนี้ เพราะว่าทานข้าวทุกมื้อเขาเสิร์ฟเบียร์จีนตลอด ก็โจ้น้ำจันกันตลอดทริปอะค่ะ



พอทานมื้อเที่ยงนะคะที่หยางซั่วเขานิยมทานเมนูอะไรๆ ก็ต้องมีเผือกผสมค่ะ แปลกดีนะคะ ก็อร่อยแปลกรสชาดดีค่ะ เสร็จก็เดินทางไปยังเมืองกวางสีเพื่อเข้าแวะชมการแสดงแสงสีเสียงอลังการที่"เขางวงช้างตำนานกุ้ยหลิน" ซึ่งเป็นอะไรที่ตื่นเต้น ประทับใจไปอีกแบบหนึ่งค่ะ ร่วมกับการแสดงการจับปลาด้วยนกกาน้ำของชาวประมงเมืองจีนด้วยค่ะ ก่อนจะแวะไปถ่ายรูปกับเจย์ดีเงินเจย์ดีทอง สัญลักษณ์ของเมืองกุ้ยหลินค่ะ  และพวกเราจะพักคืนที่ 2-3 กันที่เมืองนี้ค่ะ ห้องพักติดเครื่องปรับอากาศได้ทั้งร้อนทั้งเย็นในเครื่องเดียว เล่นเอากี้ละงงเป็นไก่ตาแตกเลยค่ะ สรุปปรับไปปรับมาก็เลยเป็นแอร์ปรับอากาศเย็นได้ในท้ายที่สุดค่ะ

ด้านอาหารการกินที่โรงแรมมื้อเช้านั้น ไกด์สั่งให้เรากินเร็วทานเร็ว เดี๊ยวไม่ทันคณะคนจีนอื่นๆ เห็นจะจริง พวกเขามีวัฒนธรรมการกิน การเดิน การทำอะไรรวดเร็ว ไม่แคร์ ไม่สน เดินชนไม่ขอโทษ เป็นเรื่องปกติของพวกเขาค่ะ เราถือก็หนักเปล่าๆ เราไปเยือนเมืองเขาเองนี่ใช่ไหมค่ะ   การข้ามถนนหนทาง เนื่องจากเมืองเขาใช้รถไฟฟ้า ไม่มีเสียง มีแตร ต้องระวังอย่างมาก เขาขับกันเร็วด้วย เรียกว่าต้องดูให้ดีก่อนข้ามถนนมากๆ เลยค่ะ


วันรุ่งขึ้นวันที่ 6 เราท่องเที่ยวกันที่กุ้ยหลินไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้า เล่นไสลเดอร์ กันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับชิม ช็อป แชะ กันเต็มอิ่มที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,000 ฟุต ดูมุมสูงจากยอดเขาสูงลงมาสวยงามมากๆ มีสายลมโชยพัดบนภูเขาพอให้เราได้ไอเย็นกันแบบโรแมนติคมากๆ ค่ะ กี้ละไม่อยากลงเลยค่ะ "มันสวรรค์ชัดๆ อ่ะ" พอไปถ่ายรูปกับชาวพื้นเมืองก็ฟังเขาออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ถ่ายแล้วเขาเรียกเท่าไรก็ต้องจ่าย...อิอิ แต่ก็คุ้มค่าค่ะ ภาพออกมาสวยงาม ที่นี่กี้ได้เพื่อนใหม่ให้กับ Presenter ที่ร้าน คือ "แม่แพนด้าอุ้มลูก" มาอีก 1 คู่ค่ะ เดี๋ยวได้เห็นกันจนเบื่อแน่นอนคร้า พอขากลับกี้และเพื่อนลงไสลเดอร์กันมาอย่างสนุกมากๆ ค่ะ หวาดเสียวตื่นเต้นดีจังค่ะ คุ้มค่า 50 หยวน เลยละค่ะ แหมใครไม่ได้ขึ้นนะคะ แสนเสียดายมากๆ อ่ะ  ลงมาก็ได้ชิมเกาลัคอร่อยๆ ลูกไม่ใหญ่ไม่โตแต่หวานกว่าซื้อในเมืองมากเลยค่ะ แค่ 10 หยวนเองค่ะ






มื้อเที่ยงวันนี้ไกด์พาเราไปทานบุฟเฟ่ที่ร้านหรูใจกลางเมืองกุ้ยหลินค่ะ อร่อยมากๆ เพราะเราสามารถเลือกอร่อยได้ทุกเมนู แถมท่าน MD.ดาด้า แสนใจดีให้ทานสุกี้ที่มีหม้อร้อนให้เพิ่มเป็นพิเศษด้วยค่ะ ทานเสร็จก็มีโปรแกรมให้เดินซื้อสินค้าพื้นเมือง ของฝากต่างๆ กันได้ ก่อนจะพาพวกเราไปดูสินค้าตามร้านผ้าไหม พวกผ้าปูที่นอนบ้าง สินค้าที่ทำจากเยื่อไผ่บ้าง ร้านสมุนไพรจีนบ้าง เรียกว่า เป็นประสบการณ์สุดยอดมากๆ ที่ว่า แต่ละร้านเขาจะมีการจัดการนำเสนอที่สุดยอด ปิดห้องนำเสนอกันเลยค่ะ จะไม่ให้ออกจนกว่าจะเสร็จตามโปรแกรมเขา เรียกว่าบางคนที่ไม่ชอบแบบนี้นะคะ "เซ็งนกกระจอกเทศกันเป็นแถวเลย" อนึ่งการขายแบบเขานั้นจะตั้งราคาสูงก่อนค่ะ แล้วพอซื้อมากๆ ชิ้น ราคาก็จะลดหลั่นกันลงมา พอตอนท้ายนะคะ งงเลยอ่ะ คนแรกซื้อแพง คนสุดท้ายซื้อแสนจะถูก เรียกว่าต้องยอมเทคนิคการขายที่เขาสามารถใช้ภาษาไทยแบบไม่แข็งแรงแต่เราเข้าใจได้ไม่ยากและนำเสนอจนเรายอมควักกระเป๋าจ่ายซื้อสินค้ากับแบบงงกันเลยละค่ะ แน่ไม่แน่อ่ะ



เสร็จก็ทานข้าวเย็นกันก่อนเข้าที่พัก มีปาร์ตี้กันด้วยคืนนี้ กี้ก็จับไมค์ครวญเพลงโปรดให้เพื่อนๆ ฟังตามเคยละค่ะ ไม่ได้ร้องนอนไม่หลับ  แถมแดนซ์กระจายกันอีกด้วย...อิอิ   

วันที่ 7 หลังอิ่มมื้อเช้าแล้ววันนี้พวกเรามีโปรแกรมไปชมหยก ชมไข่มุก ในสวนสาธารณะในกลางเมืองกุ้ยหลินกันค่ะ ต่อด้วยมื้อเที่ยงที่แสนอร่อย ก่อนที่ไกด์จะพาพวกเราไปล่องเรือชมทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำหลีเจียง ที่มีภูเขาติดลำแม่น้ำบ้าง และเมื่อมองออกไปไกลๆ ก็สามารถมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงาม ตัดกับลำน้ำสีเขียวใสเย็น เห็นวิวธรรมชาติได้อย่างน่าประทับใจมากๆค่ะ ที่นี่ถือว่าเป็นไฮ-ไลท์ของที่เมืองนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ



 
ช่วงค่ำเรามาพักกันที่หยางซั่วอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเตรียมชมโชว์สุดอลังการของ "จางอี้โหมว" ผู้กำกับมือทองของจีนค่ะ คนชมแต่ละรอบไม่ต่่ำกว่า 2,000 คน บัตรเข้าชมราว 3,000บ. ค่ะ กี้บอกได้คำเดียวว่าประทับใจในการแสดงมากๆ ค่ะ เขาใช้นักแสดงหลายร้อยคน กับฉากธรรมชาติที่มีภูเขา บึงน้ำที่ขนาดใหญ่เป็นฉากที่ยอดเยี่ยมมากๆ แสง สี เสียง ทรงพลัง จัดได้สวยงามลงตัวกับเวลาจริงๆ ค่ะ









กี้ประทับใจมากที่เขาสงวนสิ่งปรักหักพังไว้สื่อสารให้ลูกหลานเขาดูไม่ลืมอดีต
ที่เป็นมาแม้ปัจจุบันบ้านเมืองเขาจะเจริญไปมากก็ตามค่ะ ...น่าทึ่งจริงๆ ค่ะ

 

อีกมื้อก่อนขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยค่ะ 
บ้าย..บาย..กุ้ยหลิน

วันสุดท้ายวันที่ 8 เรามีโปรแกรมจะเดินทางเข้าเมืองกวางโจวเพื่อเตรียมขึ้นเครื่องบินกลับเมืองไทยกันค่ะ แต่ทว่าก่อนเข้าสนามบิน ไกด์พาเราช็อปปิ้งกันก่อนที่ถนนปักกิ่งในเมืองกวางโจว ที่รถติดมากๆ คนแออัด เดินไปไหนต้องเกาะกลุ่มกันเหมือนนักเรียนอนุบาลหมีน้อยกันเลยทีเดียวค่ะ  แต่ละคนได้ของฝากกันเพียบพาบเลยค่ะ พอทานข้าวเที่ยงเสร็จก็เดินทางเข้าไปสนามบิน ตอนนี้ไกด์ก็จะเสนอสินค้าของเขาที่สามารถนำไปเป็นของของฝากญาติๆ ได้ เช่น ขนม ผลไม้อบแห้ง เป็นต้น ก็สั่งกัน แล้วพอไปถึงสนามบินไกด์ก็จะแจกให้เราเตรียมขึ้นเครื่องต่อไปค่ะ  เนื่องจากสนามบินอยู่ไกลมากๆ วันนี้เราใช้ชีวิตอยู่บนรถบัสกันซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ก่อนขึ้นเครื่องเราก็ทานมื้อค่ำกันอีกรอบค่ะ พอเสร็จก็เดินทางต่อไปยัง"สนามบินไป่หวิน" กี้หอบกระเป๋าบ้างของฝากบ้างอีรุงตุงนังหลายอย่างจนเกือบลืมแน่ะ  พอเช็คอินเข้าไปโซนรอขึ้นเครื่องไม่นานก็พอดีได้ขึ้นเครื่องบิน สายการบินเคนย่าแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ KQ 887 กลับสู่เมืองไทยกันตอนเกือบเที่ยงคืนค่ะ  แต่เนื่องจากคณะของเราร่วมเดินทางไปกับเจ้าถิ่นของสายการบินชาวนิโกรด้วย พอทานข้าวทานน้ำกับเสร็จ เจ้ากรรมก็มีแหม่มดำนางหนึ่งร้องโอดโอยว่า "ฉันแสนรำคาญ ยายคนข้างหลังที่จิ้มๆ กดๆ แป้นที่เบาะด้านหลังฉันทำให้ฉันนอนไม่หลับอะ?" เกิดการมีปากเสียงกันจนทางสจ๊วดและแอร์โฮสเต็ทต้องมาช่วยเคลียร์เหตุการจึงสงบ ไอ้เราและเพื่อนๆ งี้ตื่นเต้นกันยกใหญ่เลยว่าพวกนี้จะตีกันบนเครื่องไหมนะดิ? สรุปว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง พวกเรากลับถึงบ้านเรากันอย่างปลอดภัยค่ะ ....เฮ้อ ทั้งสนุก ทั้งตื่นเต้น ทั้งประทับใจ ทั้งอิ่มอร่อย ได้ช็อปกระจาย หายเครียดก็กลับมาลุยงานกับ YES I CAN กันต่อละกันนะคะ  "สู้โว้ย"  จะปีชง ไม่ชง ชงมาก ชงน้อย เราๆ ท่านๆ ก็ต้องทำงานทำเงินกัน ไม่งั้นจะอดตายก็เพราะไม่รู้จัก "ชงชีวิตให้พิชิตเงินล้าน" เอานะคะ
โคตรเห็ดหอม ใหญ่มากๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไจ้เจียน(ลาก่อน)
ประชาสัมพันธ์ : ท่านที่สนใจอยากมีโอกาสดีๆ แบบกี้ไม่ยากค่ะ เพียงท่านสมัครเป็นสมาชิกกับบริษัท เยสไอแคนฯ เริ่มต้นที่ 3,000บ. ซื้อสินค้าพร้อมสมัคร แล้วท่านสามารถเลือกสิทธิประโยชน์ในการซื้อโปรโมชั่นราคาพิเศษสุดร่วมทริปการเดินทางตามช่วงโปรโมชั่นที่ท่านคิดว่าท่านมีทุนพอและในโปรโมชั่นนั้นมีตั๋วบินฟรีร่วมด้วย ท่านก็สามารถได้ร่วมทริปการเดินทางแห่งความสุขสนุกสนานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตครั้งหนึ่งได้เหมือนณิคกี้และเพื่อนๆ แล้วละค่ะ 

สนใจติดต่อ : คุณปรียาภัสสร์ การัณยศิลป์ (ณิคกี้) / ผู้เขียน / ผู้บริหารระดับรองประธานบริหารฝ่ายการตลาด ของบริษัท เยสไอแคนฯ (Vice President & CEO'YIC TEAM)

เบอร์โทร.08 9601 5286 Line: nickynanoyic และ 09 4659 4989 Line: yesican59 

E-mail: preeyapat.ka@live.com

สั่งซื้อสินค้าอัตโนมัติคลิกลงตะกร้าได้ตลอด 24 ช.ม.ที่ www.phikanesplaza.com ค่ะ รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.phikanes.com ค่ะ





ชุดนี้เพียง 4,500บ.(ปกติ 6,000บ.)
กี้กับผู้ผลิตสเปรย์นาโนพ่นใต้ลิ้น YIC.X-Factor Bio Nano Spray

Best Seller Sun Block SPF60PA+++ ครีมกันแดด 60 เท่า เป็นทั้งแป้งและรองพื้นในตัว
สินค้าขายดีที่สุดเข้าปีที่ 5 ค่ะ!











วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558

เกิดมาเพื่อใช้เศษกรรมตอนที่ 16, กว่าจะมีวันนี้เขาเคย..., ณิคกี้คนบ้าขายปุ๋ยคือใคร?, วิธีออกจากตัวเองทำไง, ยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งมีจริงหรือ?, ณิคกี้เลี้ยงเห็ดทำให้ชีวิตเปลี่ยนดีขึ้นอย่างอัศจรรย์, อยากรวยไวทำไงดี, ธุรกิจเครือข่ายใครก็ทำได้แต่จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ตัวคุณ


...เขาเคยเป็นเด็กบ้านนอกคอกนาในชนบทแห่งหนึ่งที่ไกลปืนเที่ยง แห้งแล้ง กันดาร...
...เขาเคยเป็นคนดื้อรั้นอวดดี เวลาเล่นกับเพื่อนชอบเป็นหัวโจกประจำ...
...เขาเคยเป็นคนเถียงคำไม่ตกฟาก แม้แต่คุณพ่อคุณแม่ก็อย่างเอือมระอา จนเคยตัดหางปล่อยวัด...
...เขาเคยเป็นนักเรียนที่ต้องย้ายโรงเรียนตอน ม.2 จากโรงเรียนในเมือง มาอยู่ในชนบท โดนเพื่อนๆ ที่ใหม่ไม่ยอมรับจนรู้สึกเป็น "ข้าวนอกนา และ แกะดำ"มาตลอด 2 ปี เพราะเขาได้รับการแต่งตั้งเป็น "ประธานยุวเกษตรกรของโรงเรียน"...
...เขาเคยเป็นลูกศิษย์วัดโพธิ์กินข้าวก้นบาตรพระวัดโพธิ์...
...เขาเคยนำร้องเพลงชาติ สวดมนต์ที่โรงเรียนในกรุงเทพแห่งหนึ่งจนหมาหอนแทบทุกๆ วัน...
...เขาเคยเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลและตำแหน่งหลักคือ "ตัวสำรอง"
...เขาเคยเรียนระดับมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งด้วยการทำงานไปด้วย พร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย โดยใช้เวลาเรียน 6 ปี
...เขาเคยทำงานในบริษัทเอกชนมาหลายแห่ง เรียกว่า"ใช้บริษัทเปลืองก็ว่าได้"ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา...
...เขาเคยเป็นเซลแมนขายเครื่องดังเพลิง โดยเดินขายข้างทาง จากเส้น ลาดพร้าว สุขุมวิท เพชรเกษม พหลโยธิน ต้นทาง-ปลายทางย่านปริมณฑลมาแล้ว...
...เขาเคยขายสินค้าที่มูลค่าหลายสิบล้านให้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนมาหลายแห่ง...
...เขาเคยโดนล้วงกระเป๋าบนรถเมย์ในกรุงเทพฯ และประสบอุบัติเหตุทางรถมอเตอร์ไซด์เลือดอาบ...
...เขาเคยเป็นคนเกเรก้าวร้าว ดื่มสุรายาเมาจนหัวทิ่ม...
...เขาเคยอกหักรักคุดมุดดิน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ  จนต้องเข้าวัดไปตั้งสติที่วัดพระแก้ว....
...เขาเคยเป็นตัวแทนไปประกวดนางนพมาศที่แดนเนรมิต แล้วตกรอบแรก เพราะกระเทยสวยกว่า...
...เขาเคยสูญเสียสมาชิกในครอบครัวพร้อมๆ กัน 3 ศพ ทำให้อยู่ในสภาวะจิตตกมากๆ จนหันเหไปบวชชีพราหมณ์ เพื่อสงบสติอารมณ์ และทำให้พบว่าตนเองหลังปฏิบัติธรรมมาแล้วรู้สึกว่ามีสัมผัสพิเศษติดต่อโลกวิญญาณ องค์เทพ ได้อย่างอัศจรรย์...
...เขาเคยไปดูงานต่างประเทศ และท่องเที่ยว ณ ต่างแดน มากว่า 9 ประเทศ มี พม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา  และ จีน (ฮ่องกง  คุนหมิง ปักกิ่ง เร็วๆ นี้จะไป กุ๊ยหลิน)...
...เขาเคยตกงานตอนอายุ 38 ปี เพราะบริษัทที่ทำปิดกิจการ...
...เขาเคยเป็น "ยายฉิมเก็บเห็ด" อยู่บ้าน เพื่อค้นหาตนเองและสัจจธรรมชีวิตช่วงที่ตกงานนานนับปี เพราะอยู่ในสภาพ "ตกงาน"เหมือนกับหลายๆ คน...
...เขาเคยให้โอกาสตัวเองไปเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ใครๆ ยังมองไม่ค่อยเห็นประโยชน์ที่เรียกว่า ระบบออนไลน์...
...เขาเคยใช้เวลาเพื่อตั้งต้นชีวิตในโลกออนไลน์ โดยการลงทุนซื้อโน๊ตบุ๊ค (Lap top) และใช้เวลากับมันตั้งแต่ 08.00-24.00น.ทุกๆ วัน โดยเขียนทุกเรื่องที่คิดว่าน่าจะเป็นหนทางเชื่อมต่อให้คนเข้ามารู้จักและซื้อสินค้าที่มี...
...เขาเคยไม่มีใครสนใจใน Face book จนแอบถอดท้อใจว่าทำไม ไม่มีคนรู้จักและสนใจ จนมาค้นพบว่า ก่อนจะให้ใครสนใจ "คุณต้องให้เขาก่อน" โดยให้อะไรก็ได้ที่พวกเขาจะได้รับรู้แล้วเป็นประโยชน์กับสาธารณะยิ่งดี...
...เขาเคยฝันว่าหากมีสามีจะขอให้มียศเป็น "นายร้อย" เพราะเคยปลื้มละครมากๆ เรื่อง "ผู้กองยอดรัก"
แล้วก็พบสมใจ...
...เขาเคยเป็น"คุณแม่ที่ไม่ได้เบ่งเอง" ให้กับลูกๆ ที่ส่งเสียจนเรียนจบ ทหาร พยาบาล ในท้ายที่สุด...
...เขาเคยพาคุณพ่อไปเที่ยวต่างประเทศ  ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันหนึ่งของเด็กบ้านนอกที่ประเทศเกาหลีใต้...
...เขาเคยฝันว่า ชีวิตนี้อยากเป็นนักเขียน และเขากำลังทำมันอยู่ และเขาจะทำให้ดีที่สุดต่อไป...
...เขาเคยหวังว่า อยากมีรายได้แบบ ส่วนรายได้จากการไม่ต้องทำงาน (Passive Income)คือ รายได้ที่ถึงแม้เราหยุดทำงาน แต่รายได้ก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง หลังการลงทุน เช่น หุ้น พันธบัตร เงินประกันชีวิต เป็นต้น ซึ่งตอนนี้เขาทำได้ในส่วนประกันชีวิตระยะยาวมามานานแล้ว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ลูกๆ ส่วนหุ้นบริษัทก็เคยมี แต่ขายไปแล้ว...
...เขาเคยบอกกับตนเองว่า จะต้องมีร้านค้าเป็นของตนเอง จะรูปแบบใดก็ได้ หมายถึง เป็นคลังสินค้า หรือร้านค้าออนไลน์ ตอนนี้เขาสามารถเป็นเจ้าของมันได้ทั้ง 2 อย่าง ด้วยความมานะบากบั่น และเพียรพยายาม ทั้งนี้ เพื่อไว้บริการลูกค้าทั่วโลกที่สนใจสินค้าที่นำเสนอจำหน่ายไปผ่านโลกออนไลน์มานานราว 10 ปีแล้ว...
...เขาเคยทำธุรกิจเครือข่ายครั้งแรก กับบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ไปไม่ถึงไหน เพราะไม่เข้าใจลึกซึ้งพอ...
...เขาเคยทำธุรกิจเครือข่ายครั้งที่ 2 กับบริษัทแห่งหนึ่ง แต่เนื่องจากบริษัทเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะผู้บริหารจากโลกนี้ไป ทำให้สินค้าเดิมที่เคยขายไม่มีจำหน่าย จึงต้องหยุดโดยปริยาย...
...เขาเคยให้โอกาสตัวเองเป็นครั้งที่ 3 เพื่อหาสินค้าที่มีคุณภาพ มาสนองความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่ในมือนับหมื่นนับพัน ได้มีสินค้าที่ตอบโจทย์ ซึ่งสินค้าไม่ได้มีมากมายนัก เพียงเน้นที่จำเป็น และจัดจำหน่ายตามกำลังทรัพย์ กำลังแรงกาย กำลังสมองสองมือ และคู่หูที่รู้ใจ ทีมงานที่อาจจะไม่มาก แต่ทำจริงต่อเนื่อง ก็รุ่งเรืองได้มาตราบจนทุกวันนี้...
...เขาเคยฝันว่าจะพาคุณแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ หรือ ได้นั่งเครื่องบินสักครั้ง ความฝันนี้กำลังอยู่ระหว่างกระทำ เพราะขึ้นอยู่กับสุขภาพคุณแม่เป็นสำคัญ ดังนั้น ขอทุกท่านเป็นกำลังใจด้วยนะ...

ทั้งหมด ทั้งมวลที่กล่าวมา "เขา คือ คุณปรียาภัสสร์ การัณยศิลป์ (ผู้เขียน) หรือฉายาว่า "ณิคกี้คนบ้าขายปุ๋ย" ละค่ะ กว่าจะมาถึงวันนี้ ก็เลือดตาแทบกระเด็นไม่ต่างกับหลายต่อหลายท่าน เจตนาการเขียนก็เพื่อเป็นกำลังใจแด่ผู้ที่กำลังท้อแท้ เหนื่อยกับชีวิต ให้รู้สึกว่า อย่าคิดว่าท่านลำบากและทุกข์อยู่คนเดียว เพียงท่านยิ้มกับตนเองในกระจก อย่างยืดอกสู้ ชูกำปั้น หรือชี้หน้าตนเอง ตะโกนออกไปว่า "กูจะสู้ ๆ ๆ" ผู้เขียนเชื่อว่า ท่านจะมีพลังใจสู้กับนานาอุปสรรคได้แน่นอน แล้วมันจะผ่านไปกับกาลเวลาค่ะ...ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ


























เพิ่มโอกาสการมีบุตรง่ายยิ่งขึ้น




อยากรวยเร็ว รวยแรง แซงใครๆ กี้มีวิธี โทร.09 4659 4989