ข่าวนี้ยังความเศร้าโศกเสียใจไปทั่วโลก มิใช่เพียงแค่พสกนิกรในเมืองไทยเท่านั้น นี่คงเป็นเพราะพระมหากรุณาธิคุณที่หาที่สุดมิได้ของพระองค์ได้แผ่ไพศาลไปในทั่วทุกสารทิศทั่วทุกประเทศ ทั่วทุกทวีปในโลกใบนี้ จนทำให้พระมหากษัตริย์ในนานาอารยะประเทศรวมถึงผู้นำระดับประเทศที่ทราบข่าวเช่นกันได้ส่งสารแสดงความเสียพระทัยมาอย่างสุดซึ้งมากมาย อ่านแล้วทำให้เราที่เป็นพสกนิกรของพ่อหลวงนั้นยิ่งรู้สึกได้สูญเสียสิ่งที่รักอันเป็นดั่งดวงใจเพิ่มมากขึ้นเข้าไปอีก
ในคืนวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 วันเสด็จสวรรคตองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เกิดปรากฏการณ์ "หมอกธุมเกตุ" ซึ่งตำรากล่าวถึงว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆเกิดขึ้น เช่นเหตุการณ์สวรรคตของพระเจ้าแผ่นดินมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์
เมื่อครั้งองค์ในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 ก็มีบันทึกว่าได้เกิดปรากฏการณ์ "หมอกธุมเกตุ" นี้เช่นเดียวกัน ดังข้อความบางส่วนจากพระนิพนธ์ใน หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล ...๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ เมื่อแผ่นดินสยามร้องไห้ ที่ได้บรรยายไว้ว่า...
"พวกราษฎรเอาเสื่อไปปูนั่งกันเป็นแถวตลอดสองข้างทาง จะหาหน้าใครที่มีแม้แต่ยิ้มก็ไม่มีสักผู้เดียวทุกคนแต่งดำน้ำตาไหลอย่างตกอกตกใจด้วยไม่เคยรู้รส อากาศมืดคุ้มมีหมอขาวลงจัดเกือบถึงหัวคนเดินทั่วไป ผู้ใหญ่เขาบอกว่านี่แหละ"หมอกธุมเกตุ" ที่ในตำราเขากล่าวถึง ว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆเกิดขึ้น..."
พิธีเคลื่อนพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ
วัน ศุกร์ ที่ 14 ตุลาคม 2559
จดหมายในหลวง ถึง สมเด็จพระเทพฯ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2547 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำเผยแพร่
เหล่าพสกนิกรพากันน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยกันแน่นขนัดทุกที่รถยนต์หลวงเสด็จผ่าน
เหล่าพสกนิกรต่างตระหนักและทราบกันดีว่าตั้งแต่พระองค์ทรงครองราชมา 70 ปี ที่ผ่านมานั้น ไม่มีวันไหนที่พระองค์จะได้พักเลย ทรงทำงานหนักเพื่อปวงชนชาวไทยมาตลอด และในแต่ครั้งที่ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎร์และทรงงานแต่ละแห่งนั้นก็มีเรื่องราวดีๆ มากมายที่ยิ่งทำให้พวกเราปวงชนชาวไทยยิ่งรักพระองค์มากขึ้นไปอีก เพราะทุกๆ แห่งหนที่พ่อหลวงทรงเสด็จเยี่ยมนั้นล้วนเจริญรุ่งเรืองพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าทั้งสิ้นด้วยนั่นเอง เหตุนี้จึงขอแบ่งปันเรื่องราวที่มีผู้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญๆ ได้บันทึกไว้มากมายหลายเรื่องให้พวกเราได้อ่านกันต่อนะคะ ผู้เขียนขอกราบขอบพระคุณผู้บันทึกเรื่องราวเหล่านั้นของพระองค์มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูงนะคะ ที่ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆ จากพระราชกรณียกิจของพ่อหลวงในหลายๆ เหตุการณ์ดีๆ ให้พวกเราได้รับทราบกันต่อมาอย่างน่าตื้นตันใจเป็นที่สุดค่ะ
สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์
น้อมศิระกราน กราบแทบพระยุคลบาท
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้า... นางปรียาภัสสร์ การัณยศิลป์ (ณิคกี้) ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น