เมื่อชีวิตติดเทอร์โบ ก็เหมือนชีวิตไม่คิดหยุดการเดินทาง และแน่นอนพวกเราชาวเยสไอแคนฯ เลือกที่จะก้าวเดินไม่หยุดกับเส้นทาง "สายเที่ยว" ปีละ 2 ครั้งแน่นอนค่ะ ทั้งในและต่างประเทศสลับกันไปตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพื่อเป็นแรงจูงใจให้พวกเรามีพลังใจที่จะขับเคลื่อนองค์กรที่น่ารักกันต่อไปได้นั่นเองค่ะ
.....ตั้งแต่เช้ามืด วัน อาทิตย์ ที่ 20 พ.ย.59 ดิฉันตื่นมาเพื่อเตรียมทำเนื้อทำตัวให้พร้อมและรับมื้อเช้าง่ายๆ ให้หนักท้องก่อนขึ้นเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิแอร์พอร์ตไปยังเมืองฮ่องกง ก็พอดีไฟล์ทบินเที่ยวเดิมเกิดเลื่อนมาเป็นเร็วขึ้นกว่าที่แจ้งไว้ครั้งหลังสุด แน่นอนงานนี้ก็ต้องมีลุ้นกันละว่า "ตาเซียนปุ๋ยกะยัยณิคกี้คนบ้าขายปุ๋ย"จะตกเครื่องไหม? น้องๆ ก็ทั้ง Line ทั้งโทรหากันละว่า "พี่ถึงไหนกันแล้วครับ" แฮะๆ พี่ๆ ยังอยู่แถวมอเตอร์เวย์เบรคพ้อยท์กันอยู่เลยนะดิคะ ตอนจะตี 5 เลยต้องรีบเหยียบกันซะให้ไปจอดรถได้ทันตามนัดหมาย 05.30 น. สรุปว่า ต้องขอบคุณเจ้า Fortuner Sea Pearl ที่ช่วยตะบึงฮ้อมาทันกาลพอดีเลยเหมือนกัน สรุปทันพอดี จากเหตุการณ์นี้สอนให้เรารู้ว่า การจะเดินทางไปต่างประเทศให้เผื่อเวลาไว้ล่วงหน้าสัก 1-2 ช.ม.ก็ดีน้า จะได้ไม่วิ่งๆ ลากกระเป๋ากันแบบใจตุ๊บๆ ต๊อมๆ เรียกว่าเริ่มตื่นเต้นกันตั้งแต่วันออกเดินทางแล้วละคะ งั้นมาติดตามช่วงต่อไปกันนะคะ....
.....พอถึงสนามบิน Chek Lap Kok ก็เร่งเดินทางผ่านด่าน ตม.ฝั่งบ้านเขา แล้วเดินทางไปรับทานมื้อกลางวันกันก่อนเลย เพื่อให้มีพลังก่อนที่จะไปท่องเที่ยว ตามจุดสำคัญ 2 แห่งด้วยกันค่ะ จุดแรกเป็นการไปสักการะองค์พระแม่กวนอิมพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา ซึ่งอยู่ณ หาดทรายรีพัลส์เบย์(Repulse Bay) เพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์ที่เป็นจุดศูนย์รวมใจของชาวฮ่องกงค่ะ เพื่อเสริมบารมีกัน บางท่านก็ไปขอให้มีบุตร มีหน้าที่การงาน การเงิน ความรักให้สมหวังก็ที่นี่ค่ะ
.....และจุดที่สองไกล์ดพาพวกเราขึ้นไปยังจุดชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขาวิคตอเรียพีค (Victoria Peak) เพื่อให้เรามองเห็นบรรยากาศในเมืองที่ล้วนมีตึกสูงลิบๆ ขึ้นเพียบพาบเลยรอบๆ เกาะฮ่องกงเลยทีเดียว บนยอดเขาสูงนี้ลมแรง อากาศเย็นค่ะ คนเยอะมากๆ เรียกว่าทัวร์แทบทุกทัวร์ต้องขึ้นมาเลยก็ว่าได้ อาหารการกินถ้าอยากรู้ต้องสั่งมาลองทานดู ดิฉันก็เลยจัดไอศครีมมา 2 โคน มาคิดเป็นเงินไทยก็ อันละ 271.44บ. ลูกเดียวเองนะคะ เป็นเงิน 116 ดอลล่าร์ฮ่องกง อัตราแลกเปลี่ยนวันนั้นอยู่ที่ 4.68บ./ฮ่องกงดอลล่าร์ ค่ะ คือ ความสูงบนยอดเขาอะไรๆ ขึ้นไปยาก เลยพาให้แพงแบบนี้ละค่ะ แต่สำหรับกี้แล้ว การซื้อประสบการณ์ไม่แพงค่ะ เพราะยากรู้ต้องลองให้สมอยากก็เลยจัดไปค่ะ คนบ้าแบบกี้ก็ทำอะไรแบบนี้แหล่ะค่ะ ไม่งั้นเดี๊ยวไม่มีเรื่องเด็ดๆ มาเล่าสู่เพื่อนๆ นะซิคะ เสร็จจากชมวิวแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปยังเมือง "เซิ่นเจิ่น" เมืองเศรษฐกิจสำคัญของมณฑลกวางตุ้ง ติด 1 ใน 4 ของเมืองสำคัญของประเทศจีน เพราะเจริญรุ่งเรืองมากๆ มีโทรศัพท์มือถือดังๆ ผลิตขึ้นจากเมืองนี้ไงคะ การค้าการขายเขาถึงได้ปรับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือนับจากการใช้เวลาถึง 36 ปี ที่ผู้นำเมืองนี้เขาเร่งพัฒนาจนเป็นเมืองที่เจริญก้าวหน้าทั้งเรื่องการคมนาคม ธุรกิจห้างร้าน อาคารสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบสาธารณูปโภค การกินการอยู่ถึงแม้จะเป็นอาคารบ้านเรือนลักษณะตึกสูงๆ ที่รัฐบาลและบริษัทเอกชนบ้านเมืองเขาได้มีการจัดสรรให้ประชาชนเขาอยู่กันได้อย่างสะดวกสบาย ถึงแม้จะดูคับแคบในสายตาเรา แต่เขาอยู่กันได้อย่างสงบสุขดี สังเกตุการแต่งกายพวกเขาแนวเกาหลี ญี่ปุ่น แล้วนะซิคะ ยกเว้นคนชราที่ยังสงวนแบบดั้งเดิมกันไว้ก็ยังพอเห็นได้อยู่ค่ะ แต่อะไรก็ไม่เท่ากับที่กี้ฉงนฉงายกับการใช้รถยี่ฮ้อดังๆ เป็นรถยุโรปดีๆ คันโตๆ เพียบพาบเลยนซิคะ ไปที่ไหนก็เจอ นั่นแสดงถึงศักยภาพของคนจีนที่เมืองนี้ร่ำรวยกันมากๆ เลยค่ะ สิ่งนี้ทำให้ดิฉันหวนคิดว่าที่ใครๆ ชอบว่าชาวจีนนั้นยากจนข้นแค้นมากๆ ในสมัยก่อนอาจจะจริง แต่ความรู้สึกแบบนั้น ณ ตอนนี้ไม่ใช่แล้วค่ะ ภาพในอดีตที่เคยดูจากสารคดีจากหนังต่างๆ มันหมดไปจากใจทันทีเลยค่ะ สรุป "คนจีนยุคนี้...รวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไกล์ดบอกว่าเป็นเพราะ "กฎหมายเขาแรงมาก" นั่นเองค่ะ จึงทำให้คนเขามีวินัย และปกครองง่าย รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่สูง กี้เห็น จนท.ตรวจคนเข้าเมืองเขาอย่างเข้มงวดมากๆ ค่ะ กว่าจะผ่านได้แต่ละคนนะ มองแล้วมองอีก มีเพื่อนบางท่านรูปหน้าในพาสปอร์ตกับตัวจริงแตกต่างบ้าง โดนเรียกไปคุยซะงั้น ดีที่ท้ายสุดผ่านฉลุย เพราะพวกเรามาแบบกรุ๊ปทัวร์นั่นเองค่ะ.....
.....ช่วงค่ำวันนี้เรามีชมโชว์ม่านน้ำพุุแบบมัลติวิชั่น เป็นแบบ 3D ที่สุดอลังการมากๆ ค่ะ ที่ผู้จัดทุ่มทุนสร้างกว่า 200ล้านหยวน (ฝั่งเซิ่นเจิ้นใช้เป็นเงินหยวนค่ะ 1 หยวน ตอนนี้อยู่ที่ 5.4บาท) จัดแสดงที่ OCT BAY WATER SHOW THEATRE ซึ่งเป็นโรงละครขนาดใหญ่กลางแจ้งค่ะ ก็สนุกตื่นเต้นดีนะคะ แต่ท้องไส้คนชมนี่ดิ มันหิวข้าวเย็นอ่ะ ดีนะที่ก่อนเข้าชมได้ Pizza ชาวจีนรองท้องกันมั่งอ่ะ แต่ยอมรับเลยเราสนุกตื่นเต้นกันตลอดทาง ระคนกับความสนุกสนานที่ไกล์ดเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้เราได้รู้สึกดีและชอบการเดินทางกันตลอดทริปได้จริงๆ ค่ะ เสร็จเราก็เดินทางไปรับประทานอาหารค่ำที่อร่อยมากๆ ค่ะ เป็นแนวอาหารกวางตุ้ง ดิฉันกินไก่นึ่งซีอิ้ว และเป็ดปักกิ่ง ปลานึ่งซีอิ้ว และอีกหลายๆ อย่าง แต่ที่ทุกมื้อขาดไม่ได้เลยก็เห็นจะเป็นผักกวางตุ้งผัดน้ำมันหอยที่สดกรอบอร่อยมากๆค่ะ และไข่เจียว สองเมนูนี้เป็นอาหารหลักของชาวจีนเลยค่ะ เสร็จก็เดินทางกลับเข้าที่พักกันค่ะ วันนี้คุ้มค่าการเดินทางไกลจริงๆ.....
.....เราเดินทางมายัง "วัดแชกงหมิว" หรือนิยมเรียกันว่า "วัดกังหันนำโชค" ของเมืองฮ่องกงที่เก่าแก่กว่า 400 ปี สมัยราชวงศ์ชิง มีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านโชคลาภทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งจะมีรูปปั้นของเจ้าพ่อแชกง และดาบไร้พ่ายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด ตามตำนานเล่าว่า สมัยราชวงศ์ชิงเกิดกลียุคการก่อจลาจลแข็งเมืองขึ้นทั่วประเทศ และเหตุการณ์นี้ได้ก่อเกิดบุรุษชาตินักรบที่ชื่อว่า "แชกง" เพราะได้ยกทัพไปปราบปรามความวุ่นวายที่เกิดขึ้นแทบทุกสารทิศ และท่านเองก็ได้ชื่อว่าเป็นนักรบที่ไม่เคยแพ้ เพราะไม่ว่าจะรบที่ไหนก็มีชัยที่นั่นเสมอๆ เหตุนี้เวลาใครมาที่วัดก็จะทำพิธี "หมุนกังหันแห่งโชคชะตา" เสร็จแล้วก็ไปตีกลอง หรือลั่นกลองเพื่อเป็นการบอกกล่าวท่าน ซึ่งเป็นเหมือนการลั่นกลองตอนออกศึกรบเพื่อให้ได้ชัยชนะหลังออกศึกนั่นเองค่ะ และนี่คงไม่แปลกว่าทำไมคนจำนวนมากนิยมเช่า"กังหันมงคล"ไปสักการะบูชากัน กี้เองก็ได้เช่า"กังหันลมนำโชค"มาร้านจิวเวอรี่ TSL ในเมืองฮ่องกงเช่นกันค่ะ เสร็จก็แวะพักทานอาหารกลางวันกัน.....
.....แล้วต่อด้วยไปขึ้น "กระเช้าลอยฟ้า 360องศา" สู่วัดนองปิง (Nong Ping) เข้าสู่เกาะลันตา ระยะทางจากฮ่องกงไป 5.7 ก.ม.ค่ะ วันนี้ทัศนวิสัยไม่ดีเลย เพราะฝนตกทั้งวันนะซิคะ เราตั้งใจจะไปสักการะพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่มากๆ ที่มีน้ำหนักถึง 250 ตัน และสูง 34 เมตร บนยอดเขาสูง ณ เกาะลันตา แต่โชคไม่เข้าข้างเลย แถมซ้ำเวลาใกล้หมดที่จะต้องขึ้นกระเช้ากลับมายังฝั่งเกาะฮ่องกง เลยได้แค่ไหว้ท่านบนกระเช้าลอยฟ้า เท่านั้นเองค่ะ แต่แค่นี้ก็นับว่าดีแล้วที่รอดปลอดภัยมาได้ค่ะ เพราะทั้งลม ทั้งฝน ทั้งพายุนะซิคะ คนเข้าแถวกันยาวเหยียดเลยหลายร้อยคนตอนที่เราจะกลับค่ะ ที่จริงพวกเรายังมีโปรแกรม Shopping กันที่ City Gate Outlet Mall แต่เนื่องจากไฟล์ทบินกลับประเทศไทย เกิดจะเลื่อนเข้าอีกเหมือนตอนมาเลยนะดิคะ สรุปแว้ รีบลงกระเช้าให้ไว แล้วนั่งรถบัสไปสนามบิน Chek Lap Kok เพื่อเตรียมขึ้นเครื่องกันกลับบ้านนะซิคะ มีเวลาโหลดกระเป๋าไม่นาน แล้วก็ต้องรีบผ่านด่านตรวจคนเข้า-ออกเมืองฮ่องกงอย่างรวดเร็วทั้งขบวนกว่า 70 ชีวิตอีก เรียกว่าให้ว่องๆ ท่องไว้ ตื่นเต้นตั้งแต่มา ยันวันกลับเลยค่ะ ที่จริงมีเรื่องตื่นเต้นอีกเยอะเลยค่ะ เด็ดสุดที่พวกเราต้องปี๊ดแตกกันก็คือเรื่องคนขับรถระหว่างฮ่องกงไปเซิ่นเจิ่นนี่ละค่ะ เขาเอ็ดพวกเราจนพวกเรารู้สึกเขาไม่ให้เกียรติพวกเราเท่าที่ควร ดีนะคะที่ไกล์ดเคลียร์ได้และใจเย็นพอ เลยทำให้พวกเรารู้สึกผ่อนคลายและเข้าใจในสถานการณ์ ณ ตอนนั้นมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการเดินทางทริปนี้เราได้ทั้งความสนุกสนาน ความอดทน(ปวดฉี่มากๆๆๆๆ) ความบันเทิงเริงรมณ์ ความสุขใจที่ได้ไปเคารพสักการะสิ่งที่เป็นมงคลต่างๆ ความสมหวังที่ได้ไปซื้อหาของมั๊กของชอบทั้งหลาย ความยินดีปรีดาที่พี่น้องชาวเยสไอแคนฯ ได้ไปแสดงความรักสมัครสมานกลมเกียวกัน การผจญภัยร่วมกันยังต่างแดน ดิฉันเชื่อว่าคนเราหากจะให้ได้กำไรชีวิตมากๆ ต้องให้รางวัลชีวิต และให้โอกาสตนเองไปสัมผัสความรู้สึกกับโลกกว้างให้มากๆ ให้บ่อยๆ เท่าที่จะทำได้กันมั่งก็ดีน้า.....
แล้วพบกันทริปใหม่ที่ประเทศพม่านะคะ.... YES I CAN.
ผู้เขียนขอขอบคุณบริษัท เยสไอแคน คอเปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ที่ส่งเสริมสนับสนุนทริปท่องเที่ยวทุกๆ ครั้งมา ณ โอกาสนี้ค่ะ และขอขอบคุณบริษัท โซดา แมนเนนเม้นท์ จำกัด ที่ทำให้พวกเรามีความสุขกับกิจกรรมที่จัดเสมอมานะคะ
ประชาสัมพันธ์ :
เราสองคนก็ไม่ทำอะไรมาก เพียงแค่สร้างทีมงานให้เก่ง มีฝีมือ มีความสามารถที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ทำงานดีๆ ต่อทุกๆ ท่าน หากท่านที่สนใจอยากได้รับโอกาสแบบนี้ "YIC.ออนไลน์ทีม" เราพร้อมเสมอที่จะนำพาทุกท่านรับโอกาสที่มีอิสระในการทำงาน ทางการเงิน ทางแนวคิดที่แตกต่างแต่สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่อง ด้วยการเสริมแนวคิดวิธีการและกลยุทธ์ที่ทุกท่านก็ต่อยอดได้แน่นอน อย่าช้าเพราะเวลาไม่เคยหยุดคอยใคร เริ่มต้นซะแต่วินาทีนี้ อนาคตดีๆ ย่อมเป็นของท่านและครอบครัวแน่นอนค่ะ....สนใจโทร.09 4659 4989 Line: yesican59 , 08 9601 5286 Line: nickynano , 08 1988 3799 Line: sianpui รอทุกๆ ท่าน 24 ช.ม.ค่ะ รับชมข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจที่ www.phikanes.com , www.phikanesplaza.com ก่อนได้นะคะ
สินค้าที่เราจัดจำหน่ายมี 3 หมวด : เกษตรนาโน , สุขภาพนาโน และ คอสเมติคส์นาโน ค่ะ