ดร.สมิทธ เตือน! พายุสุริยะ จะพัดเข้าหาโลก วันที่ 21 ธันวาคม นี้ หวั่นเกิดแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเล จนเกิดเป็นคลื่นสึนามิ หรือมีผลกระทบอื่น ๆ หลังจากมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ จากองค์การนาซ่า (NASA) ออกมาว่า จะมีการเกิดปรากฏการณ์พายุสุริยะ พัดเอามวลความร้อนขนาดใหญ่เข้าสู่โลก ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2555 นี้ ล่าสุด ดร.สมิทธ ธรรมสโรจน์ ประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พายุสุริยะ ได้ออกมาระบุว่า ในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 นี้ จะเป็นวันครบกำหนดการโคจรของพายุสุริยะ ที่จะเกิดขึ้นทุก ๆ 11 ปี ซึ่งอาจจะมีการพัดพาเอาพลังงานขนาดใหญ่พุ่งเข้าสู่โลก และอาจส่งผลกระทบต่อแกนโลกได้
ทั้งนี้ พายุสุริยะ เกิดจากการสะสมพลังงานแม่เหล็กในดวงอาทิตย์ไว้เป็นจำนวนมาก จนปะทุออกมาเป็นพลังงานความร้อน และปล่อยมวลความร้อนขนาดใหญ่จากโคโรนา หรือเส้นรัศมีรอบวงกลมสีดำที่อยู่ชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์ ออกมาสู่จักรวาล และมีโอกาสพัดเข้าสู่โลกด้วย
โดยผลกระทบจากพายุสุริยะหากมีการสัมผัสกับร่างกายมนุษย์นั้น ยังไม่มีรายงานว่าจะเกิดอันตรายหรือไม่ แต่หากมีการกระทบกับผิวโลก ก็อาจจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดการเคลื่อนตัวแบบเฉียบพลัน และหากกระทบกับมหาสมุทรก็อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเล จนเป็นรอยแยก และมีคลื่นสึนามิเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้นคนไทยจึงควรเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะประเทศไทยยังขาดความพร้อมในการรับมือแผ่นดินไหว จึงควรให้ความรู้แก่ประชาชนเพื่อเตรียมตัวกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
http://phikanes2515.blogspot.com/2011/10/84000.html คลิกแห่งศรัทธา "คเณชา"
"น้ำท่วมใครว่าดีกว่าฝนแล้ง พี่ว่าน้ำแห้งปล่อยให้ฝนแล้งซะยังดีกว่า
" เพลงนี้ดิฉันเคยได้ยินคุณพ่อคุณแม่ท่านร้องให้ฟังในสมัยเด็กๆ แต่ตอนนี้เพลงนี้กลับมาเข้าหูบ่อยครั้ง ก็เพราะเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก "มหาอุทกภัย" ที่มันเข้ามาเพราะมีพายุหลายๆ ลูกพัดเข้ามายังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ ฟิลลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา ลาว จีนตอนใต้ และรวมประเทศไทยเราเข้าไปด้วย สรุปว่า ทั้ง 3 ลูก ตั้งแต่ "นกเตน" "นาวสาท" "นาวแก" ก็ทำให้ทุกประเทศล้วนประสบภาวะน้ำท่วมหนักจนส่งผลให้น้ำล้นเขื่อน จนจำต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อป้องกันเขื่อนแตกพัง จึงส่งผลกระทบใหญ่แก่ประชาชนทุกระดับชั้น พื้นที่เกษตร บริษัท ห้างร้าน โรงเรียน โรงพยาบาล ธนาคาร หน่วยงานราชการ โรงงานอุตสาหกรรมทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดย่อม ขนาดเล็ก ต่างเดือดร้อนหนัก เพราะทุกๆ คน ทุกๆ หน่วย สามารถช่วยตนเองได้ระดับหนึ่ง หมายถึงผู้ที่ได้ติดตามข่าวสารตลอดแล้วเร่งเตรียมการรับมือน้ำท่วมไว้ แต่ส่วนใหญ่จะพลาดเพราะพอมวลน้ำก้อนใหญ่หลากเข้าท่วมก็สายเกินป้องกันนั่นเอง ส่งผลให้เกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่มากๆ แต่ที่สำคัญก็คือน้ำใจของคน
" เพลงนี้ดิฉันเคยได้ยินคุณพ่อคุณแม่ท่านร้องให้ฟังในสมัยเด็กๆ แต่ตอนนี้เพลงนี้กลับมาเข้าหูบ่อยครั้ง ก็เพราะเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก "มหาอุทกภัย" ที่มันเข้ามาเพราะมีพายุหลายๆ ลูกพัดเข้ามายังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ ฟิลลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา ลาว จีนตอนใต้ และรวมประเทศไทยเราเข้าไปด้วย สรุปว่า ทั้ง 3 ลูก ตั้งแต่ "นกเตน" "นาวสาท" "นาวแก" ก็ทำให้ทุกประเทศล้วนประสบภาวะน้ำท่วมหนักจนส่งผลให้น้ำล้นเขื่อน จนจำต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อป้องกันเขื่อนแตกพัง จึงส่งผลกระทบใหญ่แก่ประชาชนทุกระดับชั้น พื้นที่เกษตร บริษัท ห้างร้าน โรงเรียน โรงพยาบาล ธนาคาร หน่วยงานราชการ โรงงานอุตสาหกรรมทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดย่อม ขนาดเล็ก ต่างเดือดร้อนหนัก เพราะทุกๆ คน ทุกๆ หน่วย สามารถช่วยตนเองได้ระดับหนึ่ง หมายถึงผู้ที่ได้ติดตามข่าวสารตลอดแล้วเร่งเตรียมการรับมือน้ำท่วมไว้ แต่ส่วนใหญ่จะพลาดเพราะพอมวลน้ำก้อนใหญ่หลากเข้าท่วมก็สายเกินป้องกันนั่นเอง ส่งผลให้เกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่มากๆ แต่ที่สำคัญก็คือน้ำใจของคน
เหมือนผลงานของพวกเขา ต่างพากันนำถุงยังชีพมาแจกทั้งทางเรือ ทางเครื่องบินก็โยนลงน้ำกันไปให้ผู้ประสบภัยพายเรือมารับกันไป เพราะสถานที่บางแห่งไกลจากถนนมากๆ ลึกมากๆ จนยากที่จะเข้าไปส่งให้ได้นอกจากทางอากาศ พอชาวบ้านได้รับถุงยังชีพจากทางหน่วยราชการ ทั้งถุงพระราชทาน ทั้งจากทางภาคเอกชน ทั้งจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 3, 5, 7, 9, 11, TPBS ต่างก็ตื้นตันใจจนเห็นบางท่านร้องไห้ด้วยความซึ้งใจในน้ำใจของคนไทยที่มีให้กันในยามทุกยากอย่างนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ดิฉันหวนนึกถึงหนังสือเล่มเล็กๆ
เล่มหนึ่งไม่ได้ เพราะเนื้อความในนั้นได้กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมโลกที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระหว่างปี 47 โดยกินเวลาในระยะต่อจากนี้ไปอีกราว 10 ปี ซึ่งคำทำนายครั้งนั้นค่อนข้างจะเป็นจริงแล้วก็ได้ในความรู้สึกส่วนตัวของดิฉัน เพราะเหตุการณ์น้ำท่วมหนักจนทำให้มีผู้เสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินหนักๆ อย่างนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น หากแต่มีข่าวน้ำท่วมหนักในกัมพูชามีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน ที่ประเทศฟิลลิปปินส์ ก็มีพายุถล่มหลายต่อหลายลูกจนผู้คนต้องลำบากมากๆ จนต้องหลี้ภัยไปอาศัยกันในโรงยิมเนเซียม หรือสถานที่ที่สูงๆ เพื่อให้ปลอดภัยขึ้น ซึ่งจากภาพเหตุการณ์นี้มีผลให้ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดพื้นที่ในมหาวิทยาลัยไว้ให้ผู้ประสบอุทกภัยได้เข้าไปอาศัยกินอยู่หลับนอนกันชั่วคราวอย่างเป็นระบบระเบียบที่ดีมากๆ ขอชมจากใจจริงๆ ที่ได้เห็นภาพกิจกรรมดีๆ มีทั้งการสอนทำงานเลี้ยงชีพแบบง่ายๆ เช่น สอนการนวดจับเส้นแผนโบราณ การเย็บปักทักร้อย อย่างน้อยก็เพื่อลดความตึงเครียด มีการสวดมนต์ก่อนนอนให้ใจสงบไม่ฟุ้งซ่าน เป็นต้น พอดิฉันได้เปลี่ยนช่องไปชมทีวีไปอีกช่องก็มีข่าวการนำรถแบ็คโฮล์ รถตัก นำเหล็ก นำหิน นำดิน นำทราย มาเร่งสร้างแนวกำแพงต้านกระแสน้ำหลากซึ่งยากยิ่งเพราะด้วยแรงดันน้ำหลายพัน หลายหมื่นลูกบาศก์เมตรต่างพากันถาโถมเข้ามาอย่างแรง จนแนวกำแพงบางแห่งต้านไม่อยู่ในที่สุด ชาวบ้าน พนักงานบริษัทที่จะโดนน้ำท่วมต่างพากันเร่งบรรจุกระสอบทรายไปจัดเรียงกระสอบแล้วกระสอบเล่า บ้างบ้านก็ลงทุนก่ออิฐบล็อคกันน้ำเลยทีเดียว เชื่อไหมคะ ที่ดิฉันแอบปลื้มไม่ได้ก็เพราะได้เห็นแนวคิดดีๆ แปลกๆ ของผู้มีไอเดียดีๆ จากการพัฒนาเรือแบบใช้แรงลมโดยให้ใบพัดหมุนด้านหลัง ผู้ดัดแปรงเรือด้วยเศษวัสดุที่ไม่ใช้แล้วนำกลับมาต่อมาเรียงจนกลายเป็นแพลอยน้ำได้ เป็นเรือประยุกต์ที่ยอดเยี่ยม การทำทุ่นลอยตัวด้วยขวดพลาสติก การใช้โฟมหนาๆ แทนคลิปบอร์ดสวย เป็นต้น และสำหรับสิ่งที่มักมากับน้ำแบบน่าหวาดเสียว น่ากลัว ก็คือ พวกปลิงควาย งู ตะขาบ แมงป่อง จระเข้ ล้วนแล้วแต่สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนยิ่งนัก เพราะน้ำเยอะอย่างนี้เข้าทางมันเลยค่ะ เพราะจะจับก็ลำบากยากเข็ญนัก เห็นทางปศุสัตว์ป่าไม้ต่างๆ เร่งระดมผู้เชี่ยวชาญเร่งจับก็หนักเอาเรื่อง เพราะอย่างกรณีจระเข้นั้น พอน้ำท่วมหนักแล้วทางเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงไม่ทันป้องกันให้ดีพอจระเข้มันหลุดออกมาก็ไม่ใช่แค่ตัวสองตัว แต่มันเป็นร้อยเป็นพัน จึงทำให้งานนี้หนักหนาสาหัสมาก ดังนั้นชาวบ้านเองก็ต้องเป็นหูเป็นตาเอาตัวรอดให้ดีให้ได้ สำหรับพระเถรเณรชีก็เดือดร้อนกันทุกวัดที่โดนน้ำท่วม ท่านมีกิจทำวัตรของท่านก็ต้องงดบ้าง ทำบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันเศร้าใจมากๆ ที่ได้ยินท่านให้สัมภาษณ์ว่า "บางวันก็ได้ฉันโยม แต่บางวันก็อดแล้วแต่ปัจจัยที่มี ซึ่งหากมีก็เป็นพวกมาม่า อาหารกระป๋อง" เพราะชาวบ้านเองเขาก็เดือดร้อนพระท่านก็เข้าใจ ดังนั้นดีมากๆ ที่ทางศูนย์บรรเทาทุกข์ต่างๆ ได้เร่งระดมการจัดส่งเสบียงไปแจกจ่ายให้ประชาชน และไปถวายให้พระท่านได้มีฉันกันต่อไป จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้มีหลายๆ จังหวัดที่ประสบอุทกภัยนับได้ 60 จังหวัด ที่เยอะไม่ใช่เฉพาะทางภาคเหนือ ภาคกลางเท่านั้น แต่ยังมีทางภาคอีสานอีกหลายจังหวัดด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่มีแม่น้ำสำคัญๆ ไหลผ่านแล้วเอ่อล้นหลากเข้าท่วมด้วย และที่สำคัญตอนนี้มวลน้ำก้อนใหญ่มุ่งหน้าเข้ามาสู่กรุงเทพมหานครทางแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นระยะๆ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมซ้ำยังมีน้ำทะเลหนุนอีกในบางวัน จนทำให้ต้องเร่งระบายน้ำ โดยการใช้เรือนับร้อยลำมาผูกติดกันหลายๆ ลำ แล้วเร่งเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มอัตราการไหลของน้ำให้ไวยิ่งขึ้นเพื่อเร่งผลักดันมวลน้ำลงสู่ทะเล เรียกว่าต่างช่วยกันทำทุกวิธีทางทุกอย่างให้ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ ความรู้สึกนี้หากไม่เกิดกับใครอาจจะไม่เข้าใจถึงความรู้สึกถึงความสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รักที่ห่วงแหนที่กว่าจะสร้างจะหามาได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน แต่วันหนึ่งมันมาพัง มาหาย มาเสีย มาลอยไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้ เศร้านะ แต่เหตุการณ์นี้จะเป็นอุทาหรณ์ ที่จะทำให้คนไทยทุกคนรวมทั้งดิฉันด้วยได้เกิดแรงบันดาลใจที่จะอยู่ จะสู้ จะรับ จะปรับ จะคิด จะทำ เพื่อให้รับมือกับปัญหาน้ำท่วมอย่างนี้ในครั้งต่อๆ ไปได้นั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น หากท่านพิจารณาแล้วเห็นว่าน้ำจะเข้ามาในบ้านจนอยู่ไม่ได้แน่ๆ ก็ให้รีบเร่งขนของสำคัญ/จำเป็นเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัยให้เรียบร้อยก่อนเท่าที่ทำได้ แล้วให้ตัวท่านสมาชิกในครอบครัวของท่านได้รีบเร่งพากันอพยพออกมาจากบ้านก่อนที่จะให้ทหาร/ผู้มีจิตอาสา/อาสาสมัครต่างๆ ไปรับท่านถึงที่บ้านซึ่งจะยาก และลำบากกว่าแน่นอน ซึ่งหากถึงตอนนั้นท่านอาจจะหิว จะเดือดร้อนเรื่องอาหารการกิน น้ำ นมผง ยา ที่เตรียมไว้อย่างจำกัดนั่นเอง และเหตุการณ์นี้คงทำพวกเราได้หวนคิดกันนะคะว่า ที่ผ่านมาพวกเราทำร้าย ทำลายโลกใบนี้มาหนักหนาสาหัสแค่ไหน บทเรียนนี้จะให้เราได้คิด ได้หันกลับ ได้ทบทวนถึงสิ่งที่เราละเลยกันมานานกับการรักษาป่าไม้ รักษาสภาพแวดล้อมระบบนิเวศน์กันเพียงพอแล้วหรือยัง?!....
![]() |
| พี่คกขอหนูน้อยไปด้วยนะจ๊ะ! |
![]() |
| น้องหมูเร่งเอาตัวรอดก่อนไปขึ้นเขียง! |







ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น