วันนี้ดิฉันและครอบครัวได้พากันไปทำบุญปฏิบัติธรรมตามปกติที่มีโอกาสสะดวกค่ะ และธรรมะวันนี้ที่พระอาจารย์ท่านได้เทศนาธรรมโปรดให้แก่ญาติโยมสดับรับฟังก็คือ การทำบุญสร้างทานบารมีมีผลต่อการบุคคลที่กระทำกรรมดีอย่างไร ช่วงไหน หรือตอนไหน แล้วมันเกี่ยวกันอย่างไร พอดิฉันฟังปุ๊บก็เข้าไจทันที เพราะว่าเป็นอย่างที่ท่านว่าจริงๆ กับชีวิตนั่นเอง กล่าวคือ "การทำบุญ แบ่งเป็น 3 ช่วง" เริ่มจาก
1) ช่วงก่อนการทำบุญ
หากผู้ที่จะไปทำบุญตักบาตร ได้มีการเตรียมตัว ไตร่ตรอง มองหาสิ่งดีๆ ที่จะนำไปใส่บาตร บุญนี้เริ่มเกิดแก่ผู้ที่มีจิตเลื่อมใสศรัธทาทันที แต่จะยังไม่สำเร็จผล เพราะยังไม่ได้กระทำ อย่างไรก็ตามบุญนี้ก็ยังส่งผลให้ผู้กระทำนั้น ได้รับความสมบูรณ์พูนสุขสมหวังในชีวิตช่วงแรกคือ ตั้งแต่เกิด ถึงอายุ 25 ปี ดังนั้นในด้านตรงข้าม หากผู้ที่ละเลยความรู้สึกส่วนนี้ก็จะได้รับผลในส่วนนี้ก็คือ ชีวิตในวัยเด็ก นั้นอดอยาก ยากจนข้นแค้น ไม่มีเสื้อผ้านุ่งห่มสวยๆ มีแต่แบบเก่าๆ ขาดๆ อยากกินอะไรก็ไม่ได้กิน ได้แต่มองตาคนอื่นที่เขาได้กินสมใจ ได้มีสิ่งสะดวกสบายประมาณว่าคาบช้อนเงินช้อนทองมา แต่กะตัวเองทำไมไม่มีเหมือนเด็กคนอื่นๆ เขานะ กรรมอันใดหนอ อยากไปโรงเรียนหนังสือ ก็ไม่มีทุนเรียน จึงทำให้ขาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไปอย่างหน้าเสียดายมากนั่นเอง แต่ก็ยังไม่สายนะคะหากท่านคิดได้ และเร่งทำบุญสร้างทานบารมีตั้งแต่ตอนนี้นะค่ะ
2) ช่วงขณะทำบุญ
เมื่อผู้ที่มีจิตเลื่อมใสได้ทำบุญตักบาตร ได้สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ รักษาศีล อย่างตั้งใจจริงจังตลอดวาระที่ได้กำหนดจะเท่าไรก็ได้ และ/หรือจะ 1 วัน 3 วัน 5 วัน 7 วัน 9 วัน 15 วัน 1 เดือน 1 พรรษา ตลอดชีวิต จะถือว่าบุญนี้สำเร็จผลทัน เพราะบุคคลผู้กระทำได้ตั้งใจปฏบัติแล้ว อย่างไรก็ตามบุญนี้ก็ยังส่งผลให้ผู้กระทำนั้น ได้รับความสมบูรณ์พูนสุขสมหวังในชีวิตช่วงกลางของชีวิต คือ ตั้งแต่อายุ 26 - 50 ปี ถึงตรงนี้หลายคนจะเห็นว่า ในวัยเด็กลำบากยากแค้นมามากก็ตาม แต่ก็มาตั้งตัวได้เอาตอนวัยกลางคนนี่เอง เหตุก็เพราะผลบุญที่ได้ตั้งใจในขณะที่ได้ทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม รักษาศีล สวดมนต์ไหว้พระ สม่ำเสมอนั่นเอง จึงส่งผลให้ผู้ที่ปฏิบัตินั้นได้อานิสงค์แก่ตนในช่วงปัจฉิมวัยนั่นเองค่ะ
3) ช่วงหลังจากการทำบุญ
และท้ายที่สุดเมื่อผู้ที่มีจิตเลื่อมใสได้มีการสำนึกได้ถึงการที่ตนได้กระทำกรรมดี สร้างบุญบารมีครั้งคราใดก็ตาม หรือระลึกถึงการที่ตนได้ไปทำบุญตักบาตร ได้สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ รักษาศีล อย่างตั้งใจจริงจังมาแล้วนั้น แน่นอนก็จะถือว่าบุญที่สำเร็จผลแล้วนั้น ก็ยังส่งผลแก่ผู้กระทำ แก่ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบความคุณงามความดีนั้นต่อไป ซึ่งอานิสงค์ผลบุญในช่วงสุดท้ายนี้ก็ตามส่งผลให้ผู้กระทำนั้น ได้รับความสมบูรณ์พูนสุขสมหวังในชีวิตช่วงกลางของชีวิต คือ ตั้งแต่อายุ 51 ปี - สิ้นอายุขัย ดังนั้นหากเราได้เห็นผู้หลักผู้ใหญ่ใกล้ตัวหลายๆ คน มาร่ำรวย รุ่งเรืองเอาตอนเฒ่าชะแลแก่ชราก็อย่าแปลกใจเลย ก็เพราะผลบุญครั้งสุดท้ายที่เขาระลึกได้นั่นเอง แต่กระนั้น พวกใหญ่เหล่านี้หากในช่วงก่อนการบุญ และช่วงขณะทำบุญ ไม่ได้ตั้งใจจริงก็จะลำบากมากในช่วงดังกล่าวมา แต่ก็จะมาสะดวกสบายเอาตอนท้ายของชีวิต แต่จะมีประโยชน์อะไรมากมายนักก็คงไม่ใช่ เพราะสังขารไม่อำนวย อยากไปเที่ยวกับลูกกับหลาน จะขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นเครื่องบิน ทั้งๆ ที่มีเงินจ่ายสบายๆ แต่เจ้าสังขารก็ไม่อำนวย ดีที่มีเงินจ่ายค่ายาหาหมอนะคะ ไม่งั้น ลูกหลานเหลนก็คงจะปล่อยให้อยู่บ้านไม่ดูดำดำก็เป็นได้นะคะบางคนก็จะ ทราบอย่างนี้แล้ว หลายๆ ท่านคงเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้พร้อมกันถ้วนทั่วนะคะ เพราะธรรมะสอนให้คนมีสติคิดดีมีสุขเสมอค่ะ .....ธรรมะสวัสดีนะคะ ก่อนจากกันดิฉันขอประชาสัมพันธ์สิ่งดีๆ ให้กับทุกๆ ท่านก่อนนะคะ
แนวคิดเกษตรธรรมชาติ สู่แนวคิดเกษตรแนวใหม่แบบผสมผสาน เพื่อการอยู่รอดแบบค่อยเป็นค่อยไป แล้วธรรมชาติก็จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นทีละน้อยๆ ในท้ายที่สุดนั่นเอง |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น