PHIKANES2515

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

รู้เท่าทันการรับประทานฮอทด็อก, ที่มาของฮอทด็อกที่ท่านอาจไม่เคยรู้, รู้รักษาสุขภาพต้องใส่ใจในการกินฮอทด็อก, HOT DOG LOVER ต้องคิดก่อนทาน, อาหารจานด่วนกับฮอทด็อก, ณิคกี้ชวนปลูกผัก, ณิคกี้ชวนเพาะเห็ด

http://www.kasetnano.com/ เว็ปไซด์ล่าสุดของทีมงานกี้ ฝากติชมด้วยค่ะ มีสิ่งดีๆ แบ่งปันรอชมอยู่ค่ะ
http://www.phikanesplaza.com  ชมสินค้าเกษตรมากมายไว้บริการทุกท่าน



การทานอาหารในทุกวันนี้ ในยามเร่งด่วน หลายต่อหลายท่านมักเลือกสรรหาอาหารที่ทานง่าย สะดวก และรวดเร็ว แต่จะได้คุณค่าหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ เอาหนักท้องเข้าไว้เป็นสำคัญ เอาเป็นว่าวันนี้ดิฉันขอแบ่งปันข้อมูลดีๆ ที่ได้มีผู้หวังดีแบ่งปันมากับสื่อสาธารณะมาเล่าสู่กันฟังอีกต่อแล้วกันนะคะ ซึ่งบางท่านอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า "เจ้าฮอทด็อก"นั้นผู้ผลิตเขาทำมาจากอะไรกันดีกว่านะคะ และที่สำคัญ "ส่วนประกอบที่กว่าจะมาเป็นฮอทด็อก"นั้นมีอะไรบ้าง ดีหรือไม่ดีอย่างไร และก่อนรับประทาน "เราควรจะจัดการเขาก่อนที่จะรับประทานเข้าท้องอย่างไรก่อนดี" งั้นเรามาทำความรู้จัก"ฮอทด็อก" กันเลยดีกว่าค่ะ

ข้อสังเกตสำคัญ :
1) วัตถุดิบที่ใช้ทำ "ฮอทด็อก" มาจากเนื้อส่วนเหลือๆ ที่พ่อค้าขายไม่ได้แล้ว จึงมีคุณภาพต่ำและมีไขมันสุง ซ้ำร้ายเพื่อให้ฮอทด็อกเก็บไว้ได้นาน ผู้ผลิตยังต้องใส่สารฆ่าเชื้อเข้าไปเพื่อป้องกันเนื้อเน่า และเติมสีแดงลงไปเพื่อให้ดูน่ากิน แต่ทั้งสารฆ่าเชื้อและสีแดงเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายรับไม่ได้ ถ้าสะสมไว้นานๆ ก็อาจทำให้เป็นมะเร็ง

2) ยิ่งฮอทด็อกสีแดงสดเท่าไร ก็ยิ่งเป็นไปได้ว่า เนื้อที่ใช้ทำฮอทด็อกเป็นเนื้อคุณภาพต่ำ สีสันไม่น่าดูหรือใกล้จะเน่าแล้ว ถึงต้องใช้สีสดๆ กลบเกลื่อน

3) เมื่อเนื้อที่ใช้ไม่มีคุณภาพ ผู้ผลิตก็จำเป็นต้องเติมอาหารอย่างอื่นลงไปเพื่อให้เนื้อยืดตัวได้ดี เช่น นม ธัญพืช แป้ง ไขมัน ซึ่งทำให้คนกินอย่างเราอ้วนเอาๆ โดยไม่รู้ตัว
4) ฮอทด็อกทุกชนิดจะมีถุงใสๆ บางๆ เคลือบไว้ชั้นหนึ่ง ถุงนี้ทำมาจากคอลลาเจนสังเคราะห์ซึ่งปกติแล้วทานได้ แต่ถ้าเอาไปปิ้งหรือย่าง ถุงคอลลาเจนนี้จะกลายเป็นสารพิษที่เรียกว่า "อะคริลีไมด์" ซึ่งเป็นยาพิษตัวฉกาจที่จะทำลายระบบประสาท และทำให้เกิดโรคมะเร็ง คนที่ชอบกินไส้กรอกร้อนๆ จึงเท่ากับกำลังอร่อยอยู่บนความเสี่ยงของตัวเอง

 5) กระบวนการปรุงรสของฮอทด็อกมีการใส่ผงชูรสเป็นจำนวนมาก และยังใส่สารไนไตรด์ ซึ่งเป็นสารเคมีตัวแม่ที่จะพาเราไปหาโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งในเม็ดเลือด เนื้องอกในสมอง และมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ จะเห็นว่าบางร้านจะนิยมใช้วิธีการนึ่ง หรือ ทอดแทนการปิ้งหรือย่าง

เพียงเท่านี้ดิฉันก็เชื่อว่าผู้ที่ชื่นชอบการรับประทาน "ฮอทด็อก" คงจะระมัดระวังกันมากขึ้นนะคะ

สนใจเพาะเห็ดไว้รับประทานในบ้าน ปรึกษา ณิคกี้ ซิคะ
โทร.08-9601 5286





















วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ณิคกี้อดีตวัยเด็กเคยเป็นแม่ค้าขนมครกแล้วมาขายปุ๋ยได้อย่างไร, เกิดมาเพื่อใช้เศษกรรม ตอนที่ 9 เรื่อง แม่ค้าขายขนมสู่นักขายสากเบือยันเรือรบ,YIC-Capsule Nano-แนะนำวิธีใช้, จากคนตกงานมาเพาะเห็ดขายแล้วมาขายปุ๋ยได้อย่างเหลือเชื่อ, ณิคกี้คนสู้ชิวิตพิชิตฝันกับมหัสจรรย์การขายปุ๋ยYIC., เทคนิคขายปุ๋ยYIC.แบบพริ้วไหวแพรวพราวเพื่อให้ได้ออร์เดอร์, สารเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรนิยมใช้กันทุกพืช, ณิคกี้เจ้าของศูนย์โมบายขายอาหารเสริมพืช วายไอซี.แคปซูลนาโน




      
    
กว่าจะมาถึงวันนี้ ณิคกี้คนนี้เคยขายอะไรมาบ้าง  ตั้งแต่สมัยเด็กๆ อยากรู้ไหมคะ ถ้าอยากรู้จะเล่าให้ฟังนะคะ  เริ่มจาก "ของหวาน" ก่อนนะคะ  ตอนเด็กๆ นั้น แม่ชอบทำขนมขายเป็นอาชีพเสริมให้กับครอบครัว เช่น ขนมเปียกปูน ขนมครก ขนมตะโก้ ขนมลอดช่องไทย และลอดช่องสิงคโปร์ ข้าวโพดคั้วคลุกน้ำนมแมว น้ำแข็งใสใส่เครื่องต่างๆ และไอติมตัวการ์ตูน เป็นต้น ซึ่งสมัยนั้นแป้งที่ใช้ทำขนมเราจะใช้แป้งที่ผ่านกระบวนการโม้แป้งกันสดๆ ดังนั้น หลังจากที่แม่ให้ดิฉันแช่ข้าวสารเรียบร้อยแล้ว ผสมกับใบเตยหอมๆ แล้วก็ให้ดิฉันนั่งโม้แป้ง  ตอนนั้นดิฉันชอบมากๆ เพราะมันสนุก และรู้สึกว่าได้ทำอะไรอยู่ใกล้ๆ กับแม่มันช่างดีเหลือเกิน  สำหรับขนมของไทยเราแล้วนิยมใส่กะทิสด ดังนั้นแน่นอนดิฉันก็จะนำมะพร้าวที่แม่บรรจงปลอกเสร็จเรียบร้อย ก็จะผ่าหรือเฉาะผลจนเห็นจาวสีขาวให้เราได้กินเล่นไปพรางๆ ระหว่างขูดมะพร้าวบนกระต่ายขูดมะพร้าวไปด้วยได้เลย เสียงดังจั๊กครึกๆๆ กันแต่เช้าทุกวัน แล้วค่อยนำมะพร้าวขูดนั้นมาใส่น้ำคั้นเอาหัวกะทิแยกไว้ก่อน แล้วค่อยคั้นหางกะทิใส่หม้อไว้เคี้ยวผสมรวมกับแป้งที่เราโม้เอาไว้ ดิฉันจำได้แม่นว่าทุกครั้งที่แม่จะคั้นกะทิใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ แม่จะเรียก "หน่องเอ้ยมาช่วยแม่ขึงผ้าขาวบางหน่อยลูก" แล้วเราทั้งสองคนแม่ลูกก็จะช่วยกันทั้งดึง ทั้งขึง มือแม่ก็ละเลงขุยมะพร้าวให้กะทิกรองผ่านผ้าไหลโจกๆ ลงไป ทำซ้ำอยู่หลายรอบ จนกากของมะพร้าวดูจืดซีดก็ค่อยเอาไปเททำปุ๋ยต่อไป  แล้วหากเป็นพวกขนมกวนนั้น แม่ต้องอาศัยเตาอั้งโล่ที่ใช้ถ่านแล้วตั้งหม้อขนมค่อยๆ กวน โดยแม่ก็มักจะเรียกดิฉันอีกแหล่ะ "หน่องเอ้ยหยิบไม้กวนขนมให้แม่ทีลูก" ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ทุกอย่างสำเร็จรูปหมดเลย จึงไม่ได้อรรถรสเหมือนดิฉัน  แต่ก็อย่างว่าและค่ะ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป จะมัวนั่งขูดมะพร้าวอย่างดิฉันเห็นจะไม่ทันกินเป็นแน่  อย่างขนมครกปัจจุบันนี้ แม่ค้าเขาผสมแป้งกับกะทิกล่องก็เสร็จแล้ว สมัยโน้นดิฉันจะช่วยพ่อแม่ขายขนมครกตอนช่วงปิดเทอมใหญ่ โดยขายที่หน้าบ้าน หากวันไหนขายไม่หมดก็จะเดินขายโดยมีกลยุทธ์กับเพื่อนๆ ในก้วนเดียวกันว่า "หากพวกเองไปกับข้านะ ขนมครกกระทงสุดท้ายข้าจะแบ่งให้พวกเองทาน" เพียงแค่ขนมครกกระทงเดียวเพื่อนๆ ก็แห่ตามกันไปเป็นพรวนแล้ว แค่นี้ณิคกี้ก็ปลอดภัยไม่ต้องกลัวสุนัขกัด และอีกเรื่องก็คือ ตอนขายไอติมการ์ตูนให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียน เนื่องจากรับไอติมเขามาร้อยละ 20 บาท ก็ใส่กระติกเดินขายให้กับเพื่อนๆ ที่วิ่งเล่นในบริเวณโรงเรียน มีอยู่วันหนึ่งคุณครูที่มีหน้าที่เก็บค่าที่ที่แม่ค้ามาวางขายของ ได้มาขอเก็บค่าที่กับณิคกี้ ดิฉันก็เลยบอกกับคุณครูว่า "คุณครูขา ก็หนูเดินขายไม่ได้อยู่กับที่นี่คะ ดังนั้นคุณครูจะเก็บค่าที่หนูไม่ได้ดอกค่ะ พอคุณครูได้ฟังก็ระอากับดิฉัน ก็เลยไม่ได้เก็บเลยสักวัน" นี่ขนาดดิฉันเป็นลูกครูนะคะเนี่ย คนอย่างณิคกี้ยังไม่อายทำกิน ไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่คอยวาสนาเลย  เพราะคิดว่าการขายมันตื่นเต้น ได้ลุ้น ได้เก็บเงิน ได้ท้าทายความสามารถ ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยเลือกขายระหว่างก่อนเข้าแถวตอนเช้า และช่วงพักกลางวัน รวมถึงวันไหนมีการชนไก่ มีมวยตู้ คนเยอะๆ เจอไอ้หน่อง หรือณิคกี้คนนี้แน่นอนค่ะ 



          


    


พอมาเข้าประเภท"ของคาว" คุณแม่ก็จะพาขาย หมี่ต้ม ก๋วยเตี๋ยวผัด หมี่กรอบ ก๋วยจั๋บ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวหมู ราดหน้า ใส้หมู แมงดาทอด ส้มตำมะละกอใส่กระทง เป็นต้น  แม่เล่าให้ฟังว่าสมัยโน้นตอนที่ดิฉันยังเป็นเด็กที่ยังไม่รู้จักประสา แม่จะเดินทางไปสั่งเครื่องทำก๋วยเตี๋ยวที่ตลาดสดบางมูลนากเป็นประจำ และแม่ก็จะถือโอกาสพาดิฉันไปเที่ยวด้วย พอแม่อยู่ในร้านค้า ดิฉันก็เดินเที่ยวตะลอนไปในตลาด ไปยืนลักทานขนมไข่นกกระทาของแม่ค้าทานหน้าตาเฉย เหมือนเป็นของตัวเองก็ไม่ปาน ตอนนั้นแม่เล่าว่า ฝ่ายแม่ค้าก็ไม่ได้ดูให้ดีว่ามีเด็กตัวเล็กๆ เอื้อมกินขนมเขาอยู่อย่างเต็มไม้เต็มมือ ทั้งในปาก และในมือมีแต่ขนมไข่นกกระทาเต็มเลย แม่จึงรีบจ่ายเงินไปตามระเบียบ และกล่าวขอโทษที่ปล่อยให้ลูกมาลักทานขนมเฉยเลย และอีกร้านที่เป็นของโปรดของณิคกี้ก็คือ ไอติม หรือไอศครีม ร้านตาปอย อันนี้ก็เป็นที่รู้กันของชาวเมืองบางมูลนากที่ใครๆ ที่ได้มีโอกาสมาก็ต้องมาทานกันเสมอๆ ตอนนี้ณิคกี้อายุ 41 ปี แล้ว ก็ยังไม่วายแวะเวียนไปทานกับครอบครัวเสมอ เหมือนสมัยเด็กๆ ที่คุณแม่มักจะฝากดิฉันไว้กับตาปอยให้นั่งทานไอติมอยู่เป็นประจำเลยสมัยนั้นนะค่ะ  ตอนนี้ร้านไอติมนี้ได้โอนให้ลูกสาวเขารับช่วงต่อเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่รสชาดก็ยังอร่อยเหมือนเดิมเลย แหมคิดถึงอดีตแล้วมันช่างน่าภิรมย์นักหนาพาสุขสันต์จริงๆ เลย 


      



 
พอโตขึ้นเรียนจบ ก็เริ่มทำงานเป็นพนักงานประจำบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง จนกระทั่งเข้าสู่อาชีพนักขายเกี่ยวกับเครื่องป้องกันภัย เช่น เครื่องดับเพลิง ไฟร์อราม สโมคอราม ไฟฉุกเฉิน หลังจากผ่านการอบรมเสร็จเรียบร้อย ดิฉันก็เดินขายทั้งแต่ ต้นทางถ.ลาดพร้าว ไปสุดที่แถวบางกะปิ จากสุขุมวิท ไปแถวบางนา ทำอยู่ประมาณ 5 เดือน ก็ขายจนได้รางวัลนักขายดีเด่น ได้ทอง ได้รางวัลไปท่องเที่ยวกับเรือ Sea Tran Princess ที่เกาะพีพี จ.พังงา และไปภูเก็ตด้วย ก็มาคิดย้อนไปว่าเรานี้ก็แปลก ทำอะไรได้อย่างเหลือเชื่อเหมือนกัน ตอนนั้นอายุก็ยังแค่ 20 กว่าๆ เองค่ะ พอออกจากที่ทำงานเดิมก็มาอยู่บริษัทที่จำหน่ายน้ำมันเครื่องยี่ห้อหนึ่งที่มีสารเคลือบเทฟล่อน ตอนนั้นกำลังฮือฮามากๆ ก็ขายได้ระยะหนึ่ง ก็มาร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ ตั้งบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง ขายอุปกรณ์เครื่องมือวิศวกรรม ดังนั้นลูกค้าของบริษัทเราก็จะเป็นกลุ่มพลังงาน เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) โรงกลั่นน้ำมัน เป็นต้น สินค้าพวกนี้ก็จะเป็นเกี่ยวกับ "ท่อระบายความร้อน" Heat Exchanger Tube ซึ่งเป็นสินค้าพิเศษที่บ้านเราผลิตได้คุณภาพไม่สูงพอ จึงต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อมาจำหน่ายตามคำสั่งซื้อเป็นล๊อตๆ ซึ่งโรงไฟฟ้าจำเป็นต้องติดตั้งในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้า และนอกจากนี้ดิฉันก็ติดต่อขายตรงให้กับโรงงานที่ผลิตหม้อต้มใหญ่ๆ ที่ผลิต Boiler จำหน่ายทั่วประเทศ ดังนั้น ยิ่งขายของราคาสูง ค่านายหน้าหรือค่าคอมมิชชั่นก็ย่อมสูงตามไปด้วย ดังนั้น แต่ละปีบริษัทก็มีผลกำไรเหลือพอที่จะจัดทริปพาพวกเราไปท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นรางวัลชีวิตที่ดีครั้งหนึ่งเลยทีเดียว  สำหรับการขายอีกอันหนึ่งของดิฉันก็จะไม่พ้นเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ และสรราพาวุธที่จำเป็นในการรบ หรือการเตรียมพร้อมของทหาร ดิฉันและเพื่อนๆ ก็ทำงานร่วมกันเป็นทีม หาข่าวหรือข้อมูลการวางงบประมาณแต่ละปีล่วงหน้า เตรียมหาสินค้าดีๆ ล่วงหน้าโดยการไปดูงานที่ต่างประเทศบ้าง ที่เขานิยมจัดประเภท Exhibition ใหญ่ๆ แล้วทำการติดต่อกับ
โรงงานผู้ผลิตเพื่อตกลงการเป็นตัวแทนกับบริษัทของเขาในประเทศไทย ตามระยะเวลาที่ตกลงกัน เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาเกี่ยวสเป็คสินค้าที่เรานำเสนอ การผลิต การขนส่ง การส่งมอบ การชำระเงิน และการการันตี  เตรียมรายชื่อลูกค้าที่ต้องรู้ว่าเขาตำแหน่งอะไร ยศอะไร เบอร์โทรหน้าห้องอะไร เวลาไหนที่เขาสะดวกให้พบ ชอบอะไรเป็นพิเศษ รู้เขารู้เราใช้หมด การขายสินค้าราคาสูง สิ่งที่เรารู้ดีในวงการธุรกิจก็คือ คู่แข่งที่จะมาประกวดราคาแข่งขันกัน การเปิดซองสอบราคา การเปิดซองประมูลราคา การซื้อแบบวิธีพิเศษ หลายๆ ครั้งที่เราต้องวิ่งหาเงินมาเป็นหลักประกันการเปิดซองประกวดราคาด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าว่า เราสามารถเสนอราคางานได้จริง ส่งมอบของได้จริงหลังที่ได้ชนะการการประกวดราคาแล้ว ค่อยรับเงินประกันคืนได้ แต่ก็ต้องมีเงินค้ำประกันสัญญาอีกหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว เรียกว่าสิ่งเหล่านี้ดิฉันผ่านมันมาได้อย่างไรก็ไม่รู้ ยิ่งตอนของมาถึงท่าเรือ ก็ต้องมีการเคลียร์ของ ต้องประสานกับกรมศุลกากร และบริษัทชิปปิ้งที่ให้บริการดำเนินการออกของขั้นตอนเหล่านี้ก็ยุ่งไม่เบาเลยค่ะ เห็นไหมคะ จะว่าไปการขายจะสำเร็จเสร็จสิ้นนั้น มันต้องจบถึงที่ส่งมอบถึง Site งาน ถึงโรงงานเรียบร้อย  หรืออาจจะรวมถึงขั้นตอนการติดตั้ง(สำหรับสินค้าพิเศษบางอย่างที่เป็นพวกเครื่องจักรเก่า Used Machine) แล้วประธานโครงการเซ็นรับมอบงานนั้นๆ เป็นขั้นตอนสุดท้ายก็จะถือว่าจบสิ้นเสียทีเดียวก็ยังไม่ได้อีกนะคะ โน้นล่ะต้องรอจนหมดระยะเวลารับประกันสินค้านั่นแหล่ะ ท่านถึงจะโล่งอกไปได้  เห็นไหมคะว่า "ณิคกี้" คนนี้เจออะไรมาบ้าง และรับอะไรมาบ้าง นี่คงจะทำให้ดิฉันเดินอยู่ในโลกของการขายได้ทุกรูปแบบไหมคะ ซึ่งระยะหลังๆ ดิฉันได้ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดไปทำงานในต่างจังหวัดก็ยิ่งทำให้ได้ประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างจากเมืองกรุงมากมาย แต่ก็ได้สร้างเนื้อสร้างตัวและลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวเล็กๆ อยู่ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เรียบร้อยแล้ว ก็ทำงานประจำเป็นพนักงานบริษัทเอกชน อีก 2 บริษัท (รู้สึกชีวิตนี้จะใช้บริษัทเปลืองจังเรา) แต่ละแห่งก็นานกว่า 5 ปี รวมแล้วประมาณ 10 ปี  พอบริษัทสุดท้ายปิดตัวลง อย่างไม่สวย เพราะการบริหารงานล้มเหลว ขาดสภาพคล่องหนัก พวกดิฉันและเพื่อนๆ อีกร้อยกว่าชีวิต ก็เลยถูกลอยแพกันอย่างหน้าสมเพสเวทนา เพราะชีวิตกำลังรุ่ง แต่ชีวิตการงานดันมาร่วงซะอย่างงั้น ก็เลยต้องขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องให้บริษัทชดเชยค่าแรงกันไปตามกำลังที่พอจะสู้กันไหว เพื่อนคนไหนไปไม่ไหวก็รีบหางานทำกันจ้าระหวั่น

---> +
ส่วนตัวดิฉันก็รีบตั้งสตินั่งสมาธิแบบ "อิคคิวซัง" เลย  นั่งสักครู่ก็เกิด "ปิ้งไอเดีย" ว่าบ้านเราก็มีพื้นที่ไม่มากนัก สิ่งที่จะเพาะปลูกพืชเลี้ยงครอบครัวได้ก็คงไม่พ้น "เห็ด" นี่แหล่ะวะ  สุดท้ายก็เลยติดต่อหาเห็ดมาทดลอง แล้วก็เก็บสถิติศึกษาเป็นข้อมูลไว้เปรียบเทียบกับรุ่นต่อๆ ไป สุดท้ายก็เลี้ยงมาถึง 6 รุ่น โดยแต่ละรุ่นก็เก็บไว้รับประทานเอง  เพื่อลดค่ากับข้าว และส่วนที่เหลือก็นำไปขายให้กับแม่ค้าแกงทุก และแผงผักที่หน้าปากซอยหมู่บ้าน  พอได้ค่ากับข้าวสบายๆ และระหว่างนั้นก็ทดลองปุ๋ย/ฮอร์โมนที่จำหน่ายไปด้วย สุดท้ายทำให้ดิฉันเกิดปิ้งไอเดียอีกว่า "ทำคลิปออกยูทูป" เพื่อสื่อให้กับเพื่อนฟาร์มได้นำไปปรับปรุงใช้บ้างดีกว่า  ปรากฎว่าปาฏิหารย์มีจริง ทุกวันนี้ดิฉันอยู่รอดได้ก็เพราะสิ่งที่เกิดจากช่องว่างของการค้นหาทางออกของชีวิตว่าจะต้องคิดที่จะอยู่รอดให้ได้ และทางเลือกนั้นจะต้องสร้างสรรและช่วยผู้อื่นได้ด้วย  ต่อมาดิฉันก็เริ่มต่อยอดเพิ่มสินค้าเกษตรมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าที่เป็นเกษตรกรเหมือนเรา  ตอนนี้ดิฉันจึงพยายามเก็บชื่อ/ที่อยู่/เบอร์โทร/E-mail ของลูกค้าเอาไว้ ปรากฏว่าตอนนี้มีลูกค้าหลายๆ รายที่มาซื้อซ้ำ อันนี้ดิฉันชอบมากภูมิใจมากเลยที่พวกเขามาซื้ออีก และยิ่งทำให้มั่นใจว่าสินค้าเราดีจริงพวกลูกค้าถึงกล้ามาซื้อซ้ำ และทีเด็ดมันก็มีอยู่อีกว่า เราไม่ใช่แต่จะขายปุ๋ยอย่างเดียว  เราต้องมีตัวแก้ปัญหาให้ลูกค้าด้วย สำหรับการเกษตรก็ไม่พ้นเรื่องตัวกำจัดศัตรูพืช เน้นที่เป็นจุลินทรีย์ที่ปลอดภัยกับตัวเกษตรกรผู้ใหญ่เป็นสำคัญ และยังรวมถึงอุปกรณ์การเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการรับเพาะเห็ดอีกจำนวนหนึ่ง  เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ "ต้องการ" (เน้นเพราะเราขายให้กับผู้ที่ต้องการ จะทำให้ขายได้ง่ายที่สุดเท่านั้น พวกลองของ ก่อกวน ชวนทะเลาะไม่ต้องแวะเวียนมาดอกค่ะ เสียเวลาทำมาหากิน!) ได้นำไปใช้ประโยชน์ในคราวเดียวที่สั่ง ไม่ต้องนั่งรถ ขับรถไปหาซื้อที่โน่นทีที่นี่ที ไม่ปลอดภัย แถมอาจจะเสียเวลาไปเก้อก็ได้หากร้านนั้นไม่มี  ดังนั้นดิฉันยินดีบริการเต็มที่ที่ท่านเกษตรกรต้องการ เช่น แป้นรองก้อนเห็ด, เชือกไนล่อนร้อยแป้นเห็ด, กระบอกฉีดพ่นน้ำ/ปุ๋ย, กระปุกฉีดพ่น, ฮอร์โมนเร่งดอกและอาหารเสริมพืชYIC., บีเอสพลายแก้วกำจัดเชื้อราส้ม/เขียว, กิโลช่างเห็ด, กระโจมเพาะเห็ดสำเร็จรูป, หัวหมอกติดตั้งโรงเห็ด, จุกเห็ด, คอเห็ด, ถุงเห็ด, สำลีปิดปากก้อนเห็ด และอื่นๆ ทุกรายการสั่งซื้อได้เลยค่ะ เรายินดีให้บริการด้วยความจริงใจทั้งในประเทศและประเทศใกล้เคียง สนใจติดต่อที่ณิคกี้ โทร.08-9601 5286 E-mail:preeyapat.ka@live.com ตลอด 24 ช.ม.ค่ะ      http://www.phikanesplaza.com ชมสินค้าเกษตรมากมายไว้บริการทุกท่านที่นี่ค่ะ








แคปซูลYIC.นาโน มีแบบแบ่งจำหน่ายเพียงแคปซูลละ 50 บาท ขั้นต่ำ 6 แคปซูล ส่งฟรี EMS
และแบบน้ำ YIC.นาโนพลัส บรรจุขวด 50 ซี.ซี. ราคาขวดละ 350 บ.ส่งฟรี EMS