PHIKANES2515

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ปลูกสตรอเบอรี่ในกระถาง แทนไม้ประดับ, สตรอเบอรี่ผลไม้เมืองหนาวที่กำลังนิยมปลูกกันทั่วไทยทำได้แล้วนะ, อะไรบำรุงสตรอเบอรี่ดกดีเก็บไวนะ, YIC.NANO เร่งโตสตรอเบอรี่สีสวยหวานกรอบตอบโจทย์ที่เก็บไวไร้สารตกค้างค่ะ



 

สวัสดีค่ะ คลิปนี้ณิคกี้และเซียนปุ๋ยตั้งใจทำเพื่อชวนให้เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการใช้เวลาว่างจัดสวนในบ้าน และสวนนั้นสามารถเป็นแหล่งอาหารได้ด้วย  ซึ่งเมื่อก่อนเราสองคนก็เชิญชวนเพื่อนๆ เพาะเห็ดไว้ทานกันนานเกือบ 10 ปีแล้วค่ะ  ผลตอบรับดีเกินคาด เพราะมีแฟนคลับทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่หมุนเวียนมาทักทายใช้"อาหารเสริมพืช YIC.NANO" กันทั้งในและต่างประเทศนะซิคะ  บางท่านเห็นว่าใช้กับเห็ดได้ ก็หันไปใช้กับพืชเศรษฐกิจอื่นมากมาย  หนึ่งในนั้นก็มีเจ้า "สตรอเบอรี่ (Strawberry)" ด้วยค่ะ งั้นวันนี้เรามารู้จักกับสตรอเบอรี่กันมากขึ้นละกันนะคะ



"สตรอว์เบอร์รี" (อังกฤษstrawberry) เป็นสกุลไม้ดอกในวงศ์กุหลาบ ผลสามารถรับประทานได้ ในอดีตปลูกเป็นพืชคลุมดินให้กับต้นไม้ปลูกเลี้ยงอื่น ซึ่งอาจเป็นที่มาของชื่อก็เป็นได้[2] มีมากกว่า 20 สปีชีส์ และมีลูกผสมมากมาย แต่สตรอว์เบอร์รีที่นิยมปลูกมากในปัจจุบันก็คือสตรอว์เบอร์รีสวน (Fragaria × ananassa) ผลของสตรอว์เบอร์รีมีรสชาติหลากหลายขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีตั้งแต่รสหวานจนถึงเปรี้ยว สตรอเบอร์รีเป็นผลไม้ทางการค้าที่สำคัญ มีปลูกกันเป็นวงกว้างหลายสภาพอากาศทั่วโลก

ลักษณะของต้นสตรอเบอรี่ เป็นพืชล้มลุก แตกกิ่งก้านแผ่ปกคลุมดิน ใบจะรวมกันอยู่ 3 ใบใน 1 ก้าน ขอบใบมีรอยหยัก มีดอกสีขาว ผลมีก้านยาวเชื่อมกับต้น มีเสี้ยนเล็ก ๆ บาง ๆ กระจายอยู่ทั่วผล มีกลีบเลี้ยงบนขั้วของผล เมื่ออ่อนมีสีขาว เหลือง เมื่อสุกจะเป็นสีส้ม หรือแดง รสชาติอมเปรี้ยวถึงหวาน ขึ้นอยู่กับผลที่สุก




ฟอร์มต้นสตรอเบอรี่ระยะให้ดอก
สตรอเบอรี่ที่มีดอกสมบูรณ์ก่อนออกผล



สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม[แก้]
  • เริ่มปลูกในช่วงเดือนปลายสิงหาคม ถึง ปลายตุลาคมพื้นที่ที่มีอุณหภูมิ 10-25 องศาเซลเซียส (มีอากาศเย็นตลอดปี)
  • พื้นที่ที่มีดินอุดมสมบูรณ์ เช่น ดินแบบทุ่งหญ้าแพรรี หรือดินร่วนที่อุดมสมบูรณ์
  • เริ่มเก็บเกี่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงช่วงเดือนเมษายนของปีถัดไป

ฤดูกาล[แก้]
  • เริ่มปลูกในช่วงเดือนปลายสิงหาคม ถึง ปลายตุลาคม
  • เริ่มเก็บเกี่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงช่วงเดือนเมษายนของปีถัดไป

พันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทย[แก้]
  • พันธุ์พระราชทาน 16
  • พันธุ์พระราชทาน 20
  • พันธุ์พระราชทาน 50 (เป็นพันธุ์ที่มูลนิธิโครงการหลวงส่งเสริมให้ปลูก) เป็นพันธุ์ที่เกิดจากการผสมในประเทศสหรัฐอเมริกา และนำเข้ามาคัดเลือกโดยการผสมตัวเองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้ดีในสภาพอากาศเย็นปานกลาง ทรงพุ่มปานกลางถึงค่อนข้างแน่น ผลผลิตมีคุณภาพดีโดยเฉพาะใกล้สุกเต็มที่ น้ำหนักต่อผล 12 -18 กรัม รูปร่างเป็นลิ่มสีแดงถึงสีแดงเข้มค่อนข้างแข็ง ไม่ต้านทานต่อไร แต่ต้านทานราแป้งได้ดี
  • พันธุ์พระราชทาน 70 (เป็นพันธุ์ที่มูลนิธิโครงการหลวงส่งเสริมให้ปลูก) เป็นสายพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่น ใบมีลักษณะกลมใหญ่ และสีเขียวเข้มไม่ทนต่อราแป้ง แต่ทนต่อโรคเหี่ยว ให้ผลผลิตค่อนข้างสูง น้ำหนักต่อผล 11.5 - 13.0 กรัม ผลมีลักษณะทรงกลมหรือทรงกรวย สีแดงสดใสแต่ไม่สม่ำเสมอ เนื้อและผลค่อนข้างแข็ง มีกลิ่นหอม มีความฉ่ำและรสชาติหวาน เปอร์เซ็นต์ความหวาน 9.6° Brix
  • พันธุ์พระราชทาน 72 (เป็นพันธุ์ที่มูลนิธิโครงการหลวงส่งเสริมให้ปลูก) เป็นสายพันธุ์นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ชื่อพันธุ์ TOCHIOTOME ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 น้ำหนักต่อผล 14 กรัม เนื้อผลแข็งกว่าพันธุ์พระราชทาน 70 แต่มีความหวานน้อยกว่าคือ 9.3° Brix มีกลิ่นหอมเมื่อเริ่มสุก เนื้อภายในผลมีสีขาว ผิวผลเมื่อสุกเต็มที่จะมีสีแดงถึงแดงจัด เงาเป็นมันที่ผิวผล ทนต่อการขนส่งมากกว่าพันธุ์อื่น
  • พันธุ์พระราชทาน 80 (เป็นพันธุ์ที่มูลนิธิโครงการหลวงส่งเสริมให้ปลูก ตั้งแต่ปีพ พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา) เป็นสายพันธุ์ที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ชื่อพันธุ์ Royal Queen
  • พันธุ์ 329 (Yale) เป็นพันธุ์ที่กรมส่งเสริมการเกษตรส่งเสริมให้กับเกษตรกรปลูก เป็นพันธุ์ที่มาจากประเทศอิสราเอล

สารอาหาร[แก้]

เกษตรกรที่สนใจปลูกสตรอเบอรี่ เมื่อได้อ่านข้อมูลเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับชมคลิปข้างต้น  ดิฉันเชื่อว่าท่านต้องสามารถเพาะปลูกต้นสตรอเบอรี่ได้แน่นอนค่ะ  สำหรับการใส่ปุ๋ยบำรุงแก่ต้นสตรอเบอรี่นิยมเป็นสูตรเสมอ คือ สูตร 15-15-15 แต่สำหรับดิฉันจะใช้ YIC.NANO อาหารเสริมพืชชุดนี้ผสมน้ำฉีดพ่นทดแทนค่ะ เพราะปลอดภัยไร้าสารตกค้าง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นนวัตกรรมนาโนนั่นเองค่ะ 

ใช้อัตรา: YIC.NANO PLUS สูตรน้ำ 2 C.C. + YIC.CAPSULE NANO 1 Capsule + ผสมน้ำเปล่า 40 ลิตร ฉีดพ่นช่วงแดดอ่อนๆ เป็นแค่ละอองหมอกไม่ต้องโชกค่ะ จึงไม่เปลือก ตอนเช้าดีที่สุดค่ะ   ตอบโจทย์เรื่องรสชาดดี หวานหอม กรอบอร่อย สีสวยสด น้ำหนักดี ทนแล้ง มีภูมิต้านทานต่อโรคแมลง และเก็บเกี่ยวได้เร็วค่ะ สนใจติดต่อดิฉัน "ปรียาภัสสร์ การัณยศิลป์ / ณิคกี้ โทร.09 4659 4989, 08 9601 5286 Line: yesican59, nickynano  Email: preeyapat.ka@live.com , www.phikanesplaza.com " 

"อาหารเสริมพืช YIC.NANO" ชุดคู่ขวัญนี้เพียง @4,500บ. (ส่งฟรี EMS.ทั่วประเทศ)

ณิคกี้ขายดีเข้าสู่ปีที่ 6 แล้วค่ะ ดีด้วยคุณภาพ รับประกันความพึงพอใจ ไม่ดียินดีคืนเงินค่ะ!


ความประทับใจครั้งหนึ่งที่ประเทศเกาหลีใต้ แดนกิมจะค่ะ



วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เกิดมาเพื่อใช้เศษกรรม ตอนที่ 20 เที่ยวฮ่องกง/เซิ่นเจิ้นกับณิคกี้, ชีวิตติดเทอร์โบกับเยสไอแคน, Nicky live in Hongkong & Shenzhen 2016, เที่ยวฮ่องกง กับ phikanes.com, YIC.พาเที่ยวจุใจในแดนมังกร 2559, เรื่องงาน บุญ กิน เที่ยว เป็นเรื่องเดียวกัน สนุกและมันส์ต้องที่ YES I CAN.


เมื่อชีวิตติดเทอร์โบ ก็เหมือนชีวิตไม่คิดหยุดการเดินทาง และแน่นอนพวกเราชาวเยสไอแคนฯ เลือกที่จะก้าวเดินไม่หยุดกับเส้นทาง "สายเที่ยว" ปีละ 2 ครั้งแน่นอนค่ะ  ทั้งในและต่างประเทศสลับกันไปตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพื่อเป็นแรงจูงใจให้พวกเรามีพลังใจที่จะขับเคลื่อนองค์กรที่น่ารักกันต่อไปได้นั่นเองค่ะ


.....ตั้งแต่เช้ามืด วัน อาทิตย์ ที่ 20 พ.ย.59 ดิฉันตื่นมาเพื่อเตรียมทำเนื้อทำตัวให้พร้อมและรับมื้อเช้าง่ายๆ ให้หนักท้องก่อนขึ้นเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิแอร์พอร์ตไปยังเมืองฮ่องกง ก็พอดีไฟล์ทบินเที่ยวเดิมเกิดเลื่อนมาเป็นเร็วขึ้นกว่าที่แจ้งไว้ครั้งหลังสุด แน่นอนงานนี้ก็ต้องมีลุ้นกันละว่า "ตาเซียนปุ๋ยกะยัยณิคกี้คนบ้าขายปุ๋ย"จะตกเครื่องไหม?  น้องๆ ก็ทั้ง Line ทั้งโทรหากันละว่า "พี่ถึงไหนกันแล้วครับ" แฮะๆ พี่ๆ ยังอยู่แถวมอเตอร์เวย์เบรคพ้อยท์กันอยู่เลยนะดิคะ ตอนจะตี 5 เลยต้องรีบเหยียบกันซะให้ไปจอดรถได้ทันตามนัดหมาย 05.30 น. สรุปว่า ต้องขอบคุณเจ้า Fortuner Sea Pearl ที่ช่วยตะบึงฮ้อมาทันกาลพอดีเลยเหมือนกัน  สรุปทันพอดี จากเหตุการณ์นี้สอนให้เรารู้ว่า การจะเดินทางไปต่างประเทศให้เผื่อเวลาไว้ล่วงหน้าสัก 1-2 ช.ม.ก็ดีน้า  จะได้ไม่วิ่งๆ ลากกระเป๋ากันแบบใจตุ๊บๆ ต๊อมๆ เรียกว่าเริ่มตื่นเต้นกันตั้งแต่วันออกเดินทางแล้วละคะ งั้นมาติดตามช่วงต่อไปกันนะคะ....

.....ครั้งนี้พวกเราเดินทางด้วยสายการบิน"คาเธ่ย์แปซิฟิค" และบริษัทเยสไอแคนฯ เลือกใช้บริการนำเที่ยวโดย Soda manangement ค่ะ  มื้อเช้าทานบนเครื่องมีเมนู 2 อย่างค่ะ ตอนหิวอะไรก็อร่อยคร้า  เรานั่งเครื่องบินไปราว 2 ช.ม.กว่าๆ แต่หากบินไปที่ฮ่องกง ให้เราปรับเวลาเพิ่มไปจากเวลาที่เมืองไทยอีก 1 ช.ม. ค่ะ คล้ายกับเราย้อนเวลาหาอดีตเลยค่ะ


.....พอถึงสนามบิน Chek Lap Kok ก็เร่งเดินทางผ่านด่าน ตม.ฝั่งบ้านเขา แล้วเดินทางไปรับทานมื้อกลางวันกันก่อนเลย เพื่อให้มีพลังก่อนที่จะไปท่องเที่ยว ตามจุดสำคัญ 2 แห่งด้วยกันค่ะ จุดแรกเป็นการไปสักการะองค์พระแม่กวนอิมพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา ซึ่งอยู่ณ หาดทรายรีพัลส์เบย์(Repulse Bay) เพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์ที่เป็นจุดศูนย์รวมใจของชาวฮ่องกงค่ะ  เพื่อเสริมบารมีกัน บางท่านก็ไปขอให้มีบุตร มีหน้าที่การงาน การเงิน ความรักให้สมหวังก็ที่นี่ค่ะ

 

 





.....และจุดที่สองไกล์ดพาพวกเราขึ้นไปยังจุดชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขาวิคตอเรียพีค (Victoria Peak) เพื่อให้เรามองเห็นบรรยากาศในเมืองที่ล้วนมีตึกสูงลิบๆ ขึ้นเพียบพาบเลยรอบๆ เกาะฮ่องกงเลยทีเดียว  บนยอดเขาสูงนี้ลมแรง อากาศเย็นค่ะ คนเยอะมากๆ เรียกว่าทัวร์แทบทุกทัวร์ต้องขึ้นมาเลยก็ว่าได้  อาหารการกินถ้าอยากรู้ต้องสั่งมาลองทานดู  ดิฉันก็เลยจัดไอศครีมมา 2 โคน มาคิดเป็นเงินไทยก็ อันละ 271.44บ. ลูกเดียวเองนะคะ เป็นเงิน 116 ดอลล่าร์ฮ่องกง อัตราแลกเปลี่ยนวันนั้นอยู่ที่ 4.68บ./ฮ่องกงดอลล่าร์ ค่ะ  คือ ความสูงบนยอดเขาอะไรๆ ขึ้นไปยาก เลยพาให้แพงแบบนี้ละค่ะ  แต่สำหรับกี้แล้ว การซื้อประสบการณ์ไม่แพงค่ะ  เพราะยากรู้ต้องลองให้สมอยากก็เลยจัดไปค่ะ  คนบ้าแบบกี้ก็ทำอะไรแบบนี้แหล่ะค่ะ ไม่งั้นเดี๊ยวไม่มีเรื่องเด็ดๆ มาเล่าสู่เพื่อนๆ นะซิคะ  เสร็จจากชมวิวแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปยังเมือง "เซิ่นเจิ่น" เมืองเศรษฐกิจสำคัญของมณฑลกวางตุ้ง ติด 1 ใน 4 ของเมืองสำคัญของประเทศจีน เพราะเจริญรุ่งเรืองมากๆ มีโทรศัพท์มือถือดังๆ ผลิตขึ้นจากเมืองนี้ไงคะ การค้าการขายเขาถึงได้ปรับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือนับจากการใช้เวลาถึง 36 ปี ที่ผู้นำเมืองนี้เขาเร่งพัฒนาจนเป็นเมืองที่เจริญก้าวหน้าทั้งเรื่องการคมนาคม ธุรกิจห้างร้าน อาคารสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบสาธารณูปโภค การกินการอยู่ถึงแม้จะเป็นอาคารบ้านเรือนลักษณะตึกสูงๆ ที่รัฐบาลและบริษัทเอกชนบ้านเมืองเขาได้มีการจัดสรรให้ประชาชนเขาอยู่กันได้อย่างสะดวกสบาย ถึงแม้จะดูคับแคบในสายตาเรา แต่เขาอยู่กันได้อย่างสงบสุขดี  สังเกตุการแต่งกายพวกเขาแนวเกาหลี ญี่ปุ่น แล้วนะซิคะ ยกเว้นคนชราที่ยังสงวนแบบดั้งเดิมกันไว้ก็ยังพอเห็นได้อยู่ค่ะ  แต่อะไรก็ไม่เท่ากับที่กี้ฉงนฉงายกับการใช้รถยี่ฮ้อดังๆ เป็นรถยุโรปดีๆ คันโตๆ เพียบพาบเลยนซิคะ ไปที่ไหนก็เจอ นั่นแสดงถึงศักยภาพของคนจีนที่เมืองนี้ร่ำรวยกันมากๆ เลยค่ะ  สิ่งนี้ทำให้ดิฉันหวนคิดว่าที่ใครๆ ชอบว่าชาวจีนนั้นยากจนข้นแค้นมากๆ ในสมัยก่อนอาจจะจริง แต่ความรู้สึกแบบนั้น ณ ตอนนี้ไม่ใช่แล้วค่ะ ภาพในอดีตที่เคยดูจากสารคดีจากหนังต่างๆ มันหมดไปจากใจทันทีเลยค่ะ สรุป "คนจีนยุคนี้...รวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไกล์ดบอกว่าเป็นเพราะ "กฎหมายเขาแรงมาก" นั่นเองค่ะ จึงทำให้คนเขามีวินัย และปกครองง่าย รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่สูง กี้เห็น จนท.ตรวจคนเข้าเมืองเขาอย่างเข้มงวดมากๆ ค่ะ กว่าจะผ่านได้แต่ละคนนะ มองแล้วมองอีก มีเพื่อนบางท่านรูปหน้าในพาสปอร์ตกับตัวจริงแตกต่างบ้าง โดนเรียกไปคุยซะงั้น ดีที่ท้ายสุดผ่านฉลุย เพราะพวกเรามาแบบกรุ๊ปทัวร์นั่นเองค่ะ.....

 

.....ช่วงค่ำวันนี้เรามีชมโชว์ม่านน้ำพุุแบบมัลติวิชั่น เป็นแบบ 3D ที่สุดอลังการมากๆ ค่ะ ที่ผู้จัดทุ่มทุนสร้างกว่า 200ล้านหยวน (ฝั่งเซิ่นเจิ้นใช้เป็นเงินหยวนค่ะ 1 หยวน ตอนนี้อยู่ที่ 5.4บาท) จัดแสดงที่ OCT BAY WATER SHOW THEATRE ซึ่งเป็นโรงละครขนาดใหญ่กลางแจ้งค่ะ ก็สนุกตื่นเต้นดีนะคะ แต่ท้องไส้คนชมนี่ดิ มันหิวข้าวเย็นอ่ะ  ดีนะที่ก่อนเข้าชมได้ Pizza ชาวจีนรองท้องกันมั่งอ่ะ  แต่ยอมรับเลยเราสนุกตื่นเต้นกันตลอดทาง ระคนกับความสนุกสนานที่ไกล์ดเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้เราได้รู้สึกดีและชอบการเดินทางกันตลอดทริปได้จริงๆ ค่ะ  เสร็จเราก็เดินทางไปรับประทานอาหารค่ำที่อร่อยมากๆ ค่ะ เป็นแนวอาหารกวางตุ้ง ดิฉันกินไก่นึ่งซีอิ้ว และเป็ดปักกิ่ง ปลานึ่งซีอิ้ว และอีกหลายๆ อย่าง แต่ที่ทุกมื้อขาดไม่ได้เลยก็เห็นจะเป็นผักกวางตุ้งผัดน้ำมันหอยที่สดกรอบอร่อยมากๆค่ะ และไข่เจียว สองเมนูนี้เป็นอาหารหลักของชาวจีนเลยค่ะ  เสร็จก็เดินทางกลับเข้าที่พักกันค่ะ วันนี้คุ้มค่าการเดินทางไกลจริงๆ.....





.....วันจันทร์ ที่ 21 พ.ย.59 วันนี้เป็นวัน Shopping ค่ะ มีไปร้านยา และสมุนไพร ซึ่งดิฉันเองก็ตั้งใจจะมาซื้อ "บัวหิมะ"(เป่าฟูหริง) แก้อาการน้ำร้อนลวก แผลจากไฟลวก และอื่นๆ อีกหลายอาการ พร้อมกับซื้อพวกขนมที่น่าตาน่าเชื่อว่าดีจริง กับผลไม้อบแห้ง ไปฝากทางบ้านค่ะ เพราะ"บัวหิมะของเก่า" สมัยที่ดิฉันไป"กรุงปักกิ่ง" มันหมดอายุแล้วนะซิคะ  แล้วก็ต่อด้วยไปทานอาหารกลางวันมื้อนี้จัดสไตล์อาหารแต้จิ๊วค่ะ  เสร็จก็มาชมร้านหยก และร้านผ้าเยื่อไผ่ และยาสีฟันที่ผลิตจากวัตถุดิบคือถ่านจากไม้ไผ่เป็นสินค้าที่ทัวร์ทุกทัวร์ต้องมาแวะกันประจำค่ะ กี้เองก็ไม่พลาดค่ะ ส่วนตัวแล้วชอบยาสีฟันเขาค่ะ  หลังจากนั้นก็ไปที่ตลาดหลอวู่ (Lowo) ที่มีสินค้าที่ก๊อบเหมือนแท้เพียบเลยนะซิคะ ก็ได้แต่เดินๆ ชมค่ะ  เพราะอยากเก็บภาพบรรยากาศมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังมากกว่าค่ะ เสร็จก็เข้าที่พักที่เดิม  และเตรียมแพ็คของที่ซื้อใส่กระเป๋าเตรียมเดินทางกลับในวันถัดไป....



 

.....เช้าวัน อังคาร ที่ 22 พ.ย.59 หลังทานมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้วเราก็เตรียมตัวเดินทางด้วยรถบัสไปยัง ด่านตรวจคนเข้า-ออกเมือง เซินเจิ่น เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองฮ่องกงกันค่ะ เราเปลี่ยนรถบัสกันบ่อยเหมือนกันค่ะทริปนี้ เพราะเป็นการเดินทางเข้า-ออกเกาะ และแผ่นดินใหญ่ของเมืองจีน ก็เป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นใครที่รักการเดินทางแนวผจญภัย ตื่นเต้น ต้องฟิตตัวกันให้พร้อมสำหรับการเดินเหินที่ต้องแข่งกับเวลาเป็นระยะๆ จะมาเอ้อละเหยลอยลม คงต้องอยู่ที่บ้านดีกว่าค่ะ ดังนั้นวัยที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวก็คือไม่ควรเกิน 75 ปี ค่ะ สังเกตุดูแล้วแต่ละทริปเฉลี่ยแล้วอายุคนที่ท่องเที่ยวด้วยกันจะอยู่ระหว่างอายุ 27-65 ปี ค่ะ คือ เรียกว่า ยังพอวิ่งทันรถไฟได้ทันก็โอเคค่ะ.....

 

 




.....เราเดินทางมายัง "วัดแชกงหมิว" หรือนิยมเรียกันว่า "วัดกังหันนำโชค" ของเมืองฮ่องกงที่เก่าแก่กว่า 400 ปี สมัยราชวงศ์ชิง มีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านโชคลาภทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งจะมีรูปปั้นของเจ้าพ่อแชกง และดาบไร้พ่ายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด ตามตำนานเล่าว่า สมัยราชวงศ์ชิงเกิดกลียุคการก่อจลาจลแข็งเมืองขึ้นทั่วประเทศ และเหตุการณ์นี้ได้ก่อเกิดบุรุษชาตินักรบที่ชื่อว่า "แชกง" เพราะได้ยกทัพไปปราบปรามความวุ่นวายที่เกิดขึ้นแทบทุกสารทิศ และท่านเองก็ได้ชื่อว่าเป็นนักรบที่ไม่เคยแพ้ เพราะไม่ว่าจะรบที่ไหนก็มีชัยที่นั่นเสมอๆ เหตุนี้เวลาใครมาที่วัดก็จะทำพิธี "หมุนกังหันแห่งโชคชะตา" เสร็จแล้วก็ไปตีกลอง หรือลั่นกลองเพื่อเป็นการบอกกล่าวท่าน ซึ่งเป็นเหมือนการลั่นกลองตอนออกศึกรบเพื่อให้ได้ชัยชนะหลังออกศึกนั่นเองค่ะ และนี่คงไม่แปลกว่าทำไมคนจำนวนมากนิยมเช่า"กังหันมงคล"ไปสักการะบูชากัน กี้เองก็ได้เช่า"กังหันลมนำโชค"มาร้านจิวเวอรี่ TSL ในเมืองฮ่องกงเช่นกันค่ะ เสร็จก็แวะพักทานอาหารกลางวันกัน..... 






.....แล้วต่อด้วยไปขึ้น "กระเช้าลอยฟ้า 360องศา" สู่วัดนองปิง (Nong Ping) เข้าสู่เกาะลันตา ระยะทางจากฮ่องกงไป 5.7 ก.ม.ค่ะ วันนี้ทัศนวิสัยไม่ดีเลย เพราะฝนตกทั้งวันนะซิคะ  เราตั้งใจจะไปสักการะพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่มากๆ ที่มีน้ำหนักถึง 250 ตัน และสูง 34 เมตร บนยอดเขาสูง ณ เกาะลันตา แต่โชคไม่เข้าข้างเลย แถมซ้ำเวลาใกล้หมดที่จะต้องขึ้นกระเช้ากลับมายังฝั่งเกาะฮ่องกง เลยได้แค่ไหว้ท่านบนกระเช้าลอยฟ้า เท่านั้นเองค่ะ  แต่แค่นี้ก็นับว่าดีแล้วที่รอดปลอดภัยมาได้ค่ะ เพราะทั้งลม ทั้งฝน ทั้งพายุนะซิคะ คนเข้าแถวกันยาวเหยียดเลยหลายร้อยคนตอนที่เราจะกลับค่ะ  ที่จริงพวกเรายังมีโปรแกรม Shopping กันที่ City Gate Outlet Mall แต่เนื่องจากไฟล์ทบินกลับประเทศไทย เกิดจะเลื่อนเข้าอีกเหมือนตอนมาเลยนะดิคะ สรุปแว้ รีบลงกระเช้าให้ไว แล้วนั่งรถบัสไปสนามบิน Chek Lap Kok เพื่อเตรียมขึ้นเครื่องกันกลับบ้านนะซิคะ มีเวลาโหลดกระเป๋าไม่นาน แล้วก็ต้องรีบผ่านด่านตรวจคนเข้า-ออกเมืองฮ่องกงอย่างรวดเร็วทั้งขบวนกว่า 70 ชีวิตอีก เรียกว่าให้ว่องๆ ท่องไว้ ตื่นเต้นตั้งแต่มา ยันวันกลับเลยค่ะ ที่จริงมีเรื่องตื่นเต้นอีกเยอะเลยค่ะ  เด็ดสุดที่พวกเราต้องปี๊ดแตกกันก็คือเรื่องคนขับรถระหว่างฮ่องกงไปเซิ่นเจิ่นนี่ละค่ะ เขาเอ็ดพวกเราจนพวกเรารู้สึกเขาไม่ให้เกียรติพวกเราเท่าที่ควร  ดีนะคะที่ไกล์ดเคลียร์ได้และใจเย็นพอ เลยทำให้พวกเรารู้สึกผ่อนคลายและเข้าใจในสถานการณ์ ณ ตอนนั้นมากยิ่งขึ้น  ดังนั้นการเดินทางทริปนี้เราได้ทั้งความสนุกสนาน ความอดทน(ปวดฉี่มากๆๆๆๆ) ความบันเทิงเริงรมณ์ ความสุขใจที่ได้ไปเคารพสักการะสิ่งที่เป็นมงคลต่างๆ ความสมหวังที่ได้ไปซื้อหาของมั๊กของชอบทั้งหลาย ความยินดีปรีดาที่พี่น้องชาวเยสไอแคนฯ ได้ไปแสดงความรักสมัครสมานกลมเกียวกัน  การผจญภัยร่วมกันยังต่างแดน  ดิฉันเชื่อว่าคนเราหากจะให้ได้กำไรชีวิตมากๆ ต้องให้รางวัลชีวิต และให้โอกาสตนเองไปสัมผัสความรู้สึกกับโลกกว้างให้มากๆ ให้บ่อยๆ เท่าที่จะทำได้กันมั่งก็ดีน้า.....

แล้วพบกันทริปใหม่ที่ประเทศพม่านะคะ.... YES I CAN.


ผู้เขียนขอขอบคุณบริษัท เยสไอแคน คอเปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ที่ส่งเสริมสนับสนุนทริปท่องเที่ยวทุกๆ ครั้งมา ณ โอกาสนี้ค่ะ  และขอขอบคุณบริษัท โซดา แมนเนนเม้นท์ จำกัด ที่ทำให้พวกเรามีความสุขกับกิจกรรมที่จัดเสมอมานะคะ

ประชาสัมพันธ์ :

เราสองคนก็ไม่ทำอะไรมาก เพียงแค่สร้างทีมงานให้เก่ง มีฝีมือ มีความสามารถที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ทำงานดีๆ ต่อทุกๆ ท่าน หากท่านที่สนใจอยากได้รับโอกาสแบบนี้ "YIC.ออนไลน์ทีม" เราพร้อมเสมอที่จะนำพาทุกท่านรับโอกาสที่มีอิสระในการทำงาน ทางการเงิน ทางแนวคิดที่แตกต่างแต่สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่อง ด้วยการเสริมแนวคิดวิธีการและกลยุทธ์ที่ทุกท่านก็ต่อยอดได้แน่นอน อย่าช้าเพราะเวลาไม่เคยหยุดคอยใคร เริ่มต้นซะแต่วินาทีนี้ อนาคตดีๆ ย่อมเป็นของท่านและครอบครัวแน่นอนค่ะ....สนใจโทร.09 4659 4989 Line: yesican59 , 08 9601 5286 Line: nickynano , 08 1988 3799 Line: sianpui รอทุกๆ ท่าน 24 ช.ม.ค่ะ  รับชมข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจที่ www.phikanes.com , www.phikanesplaza.com ก่อนได้นะคะ

สินค้าที่เราจัดจำหน่ายมี 3 หมวด : เกษตรนาโน , สุขภาพนาโน และ คอสเมติคส์นาโน ค่ะ